Registry เป็นฐานข้อมูลสำคัญของระบบ Windows เป็นตัวเก็บข้อมูลระบบ รวมทั้งข้อมูลของโปรแกรมต่างๆ ที่มีการติดตั้งไว้ภายในระบบ Windows ดังนั้น ถ้าไฟล์ registry เสีย อันเนื่องจากไวรัส หรือจากไฟล์เสียหาย เช่น ปิดเครื่องโดยไม่ shutdown, เครื่องแฮ้งค์ เป็นต้น อาจทำให้เราไม่สามารถเข้าไปใช้งาน Windows ได้ หลายๆ คนก็ใช้วิธีแก้ไขโดยการติดตั้ง Windows ทับเข้าไปใหม่ ซึ่งต้องเสียเวลามากเกินไป 

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน เรามาศึกษาวิธีการ backup registry และการ restore กันดีกว่า

การ backup registry

1.     คลิกเมนู Start คลิกคำสั่ง Run

2.     พิมพ์คำว่า regedit และกดปุ่ม enter

3.     ที่เมนู registry คลิก Registry เลือกคำสั่ง Export Registry File

4.     พิมพ์ชื่อไฟล์ เช่น backup registry เป็นต้น

5.     ที่ตัวเลือก Export range ด้านล่าง ให้คลิกเลือก All

6.     จากนั้น คลิกปุ่ม Save

การ Restore Registry

·         กรณีที่สามารถ เข้าระบบ Windows ได้

1.     คลิกเมนู Start คลิกคำสั่ง Run

2.     พิมพ์คำว่า regedit และกดปุ่ม enter

3.     ที่เมนู registry คลิก Registry เลือกคำสั่ง Import Registry File

4.     เลือกโฟลเดอร์ที่เก็บ registry

5.     จากนั้น คลิกปุ่ม Open

6.     โปรแกรมจะเริ่มทำการ restore registry ให้อัตโนมัติ

 

·         กรณีที่ไม่สามารถเข้าระบบ Windows ได้

1.     ให้ boot ด้วยแผ่น boot เพื่อเข้าระบบ DOS

2.     พิมพ์คำสั่ง cd\windows\command เพื่อย้าย drive ไปยังโฟลเดอร์ windows\command

3.     พิมพ์คำสั่ง scanreg.exe /fix (ตรวจสอบและแก้ไข registry อัตโนมัติ) จากนั้น restart ใหม่ ถ้ายังไม่ได้ให้

4.     เปลี่ยนเป็นพิมพ์คำสั่ง scanreg.exe /restore (ตรวจสอบและนำ registry เก่าที่สำรองไว้อัตโนมัติมาใช้งาน) โดยเราสามารถเลือกวันที่ต้องการได้ (การ restore วิธีนี้ เป็นการ restore โดยการดึงข้อมูล registry ที่มีการสำรองอัตโนมัติโดย Windows


Menu