วิธีเพิ่มพื้นที่ว่างบนสมาร์ทโฟน

เพิ่มพื้นที่ว่างบนสมาร์ทโฟน

หลายคนคงเคยเจอปัญหา “พื้นที่ในโทรศัพท์เต็ม” ทั้งที่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปเยอะ หรือไม่ได้โหลดแอปใหม่มากมาย แต่มือถือก็ยังเตือนให้ลบข้อมูลอยู่เรื่อย ๆ จนใช้งานแทบไม่ได้

 เปิดกล้องก็กระตุก โหลดรูปก็ช้า บางทียังลงแอปเพิ่มไม่ได้อีกด้วย จริง ๆ แล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่มือถือแย่ แต่อยู่ที่ข้อมูลต่าง ๆ สะสมมากขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ทั้งรูป วิดีโอ ไฟล์แชต ไฟล์ดาวน์โหลด และไฟล์ขยะจากแอปต่าง ๆ พอสะสมไปเรื่อย ๆ ก็เลยทำให้หน่วยความจำในเครื่องเต็มแบบไม่รู้ตัว 

บทความนี้จะชวนมาดูวิธีเพิ่มพื้นที่ว่างบนสมาร์ทโฟนแบบง่าย ๆ ใช้ได้ทั้ง Android และ iPhone ไม่ต้องเป็นสายไอทีก็ทำตามได้ ช่วยให้มือถือกลับมาลื่นขึ้น เปิด–ปิดแอปได้เร็วขึ้น แถมยังไม่ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้เปลืองเงินด้วย

1) เช็กก่อนว่าอะไรใช้พื้นที่เยอะที่สุด

ก่อนจะเริ่มลบอะไรยกใหญ่ แนะนำให้เริ่มจากการ “เช็กก่อน” ว่าอะไรใช้พื้นที่เยอะที่สุดในเครื่องเรา โดยเข้าไปที่เมนูการจัดเก็บข้อมูล (Storage) ในการตั้งค่า มือถือส่วนใหญ่จะแสดงเป็นกราฟหรือแถบสีว่า อะไรใช้พื้นที่เท่าไหร่ เช่น

  • รูปภาพและวิดีโอ
  • แอปโซเชียล เช่น LINE, Facebook, TikTok, IG
  • เกมต่าง ๆ
  • ไฟล์เอกสาร เพลง หรือไฟล์เสียง
  • ไฟล์ขยะหรือไฟล์ชั่วคราวของระบบ

พอรู้ว่า “ตัวไหนกินเยอะสุด” เราก็จะจัดการได้ถูกจุด ไม่ต้องลบมั่ว ๆ จนหาอะไรไม่เจอ และไม่ต้องไปยุ่งกับไฟล์ระบบที่สำคัญด้วย

2) ลบรูปและวิดีโอที่ไม่จำเป็น

รูปและวิดีโอคือสิ่งที่กินพื้นที่มากที่สุด โดยเฉพาะวิดีโอที่ถ่ายเล่น ๆ ไฟล์เดียวอาจมีขนาดหลายร้อยเมกะไบต์ วิธีจัดการแบบง่าย ๆ คือ

  • ลบรูปที่เบลอ มืด สว่างเกินไป หรือถ่ายรัวไว้หลายใบแล้วใช้จริงแค่ใบเดียว
  • ลบวิดีโอที่ดูจบแล้ว ไม่ได้อยากเก็บไว้จริง ๆ
  • ลบภาพหน้าจอ (Screenshot) ที่แคปไว้ชั่วคราว เช่น โค้ดส่วนลด แผนที่ รายละเอียดชั่วคราว
  • ลบรูปที่ส่งต่อในแชตที่เรามีสำเนาอยู่ในอัลบั้มอื่นแล้ว

ถ้าจะให้เร็ว แนะนำให้เข้าไปจัดการทีละอัลบั้ม เช่น อัลบั้ม “Screenshots”, “Messenger”, “Line” หรือ “Downloads” เคลียร์ทีเดียว พื้นที่คืนมาเยอะมาก

3) ใช้ฟีเจอร์ “เคลียร์พื้นที่” หรือแอปช่วยจัดการความจำ

สมาร์ทโฟนหลายยี่ห้อมีฟีเจอร์ช่วยเคลียร์พื้นที่ให้แบบอัตโนมัติ เช่น “Free up space”, “Optimize Storage” หรือเมนู “ล้างไฟล์ขยะ” ซึ่งจะช่วยลบไฟล์ชั่วคราวและไฟล์ที่ไม่จำเป็น โดยที่ไม่กระทบกับรูปและไฟล์หลักของเรา

สำหรับ Android สามารถใช้แอปอย่างเช่น:

  • Files by Google – ช่วยหาว่าไฟล์ไหนใหญ่ ซ้ำ หรือไม่ค่อยใช้
  • แอปจัดการเครื่องของแบรนด์ เช่น Samsung, Xiaomi, OPPO ที่มากับเครื่อง

กดแค่ไม่กี่ครั้ง พื้นที่อาจคืนมาหลายร้อยเมก หรือเป็นกิกะไบต์ได้เลย โดยไม่ต้องไล่ลบเองทีละไฟล์ให้มึนหัว

4) เคลียร์แคชของแอปโซเชียล (Facebook, TikTok, IG ฯลฯ)

แอปโซเชียลและวิดีโอสั้นต่าง ๆ จะเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องเพื่อให้เปิดเร็วขึ้น แต่ข้อเสียคือมันกินพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว วิธีจัดการมีดังนี้

บน Android

  • เข้าไปที่การตั้งค่า → แอป → เลือกแอปที่ใช้บ่อย เช่น Facebook, IG, TikTok
  • กด “ล้างแคช” (Cache) – ไม่ใช่ “ล้างข้อมูล” เด็ดขาด

บน iPhone

  • บางแอปต้องลบแล้วติดตั้งใหม่ เพื่อให้ไฟล์ขยะหายไป
  • ใช้ฟีเจอร์ “Offload App” เพื่อลบตัวแอปออก แต่เก็บข้อมูลสำคัญไว้

แค่เคลียร์แคชแอปโซเชียลไม่กี่ตัว พื้นที่อาจคืนมาหลายกิกะไบต์แบบไม่น่าเชื่อ

5) เคลียร์ไฟล์แชต โดยเฉพาะ LINE

LINE เป็นหนึ่งในแอปที่กินพื้นที่หนักมาก เพราะมีทั้งรูป วิดีโอ สติกเกอร์ ไฟล์งาน และรูปในอัลบั้มต่าง ๆ ยิ่งอยู่ในหลายกลุ่ม ยิ่งใช้พื้นที่เยอะ วิธีจัดการคือ

  • เข้าไปในห้องแชตที่ใช้บ่อย แล้วลบไฟล์รูป/วิดีโอเก่า ๆ
  • ลบไฟล์เสียงที่ไม่จำเป็น
  • ตรวจอัลบั้มในห้องแชต ถ้ามีรูปซ้ำกับที่เซฟในอัลบั้มภาพแล้ว ก็ลบได้
  • ตั้งค่าปิดการดาวน์โหลดไฟล์อัตโนมัติ เพื่อลดไฟล์ที่ไม่จำเป็น

แค่เคลียร์กลุ่มครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนใหญ่ ๆ กลุ่มเดียว ก็อาจคืนพื้นที่ได้เยอะมากแล้ว

6) ล้าง “อัลบั้มที่ลบล่าสุด” หรือถังขยะรูปภาพ

หลายคนเข้าใจว่าพอลบรูปแล้ว รูปจะหายทันที แต่จริง ๆ แล้วมือถือจะเก็บไว้ในโฟลเดอร์ “ถังขยะ” หรือ “ลบล่าสุด” อีกระยะหนึ่ง ซึ่งทำให้พื้นที่ยังไม่ถูกคืน วิธีแก้คือ

  • เข้าไปที่อัลบั้ม “Recently Deleted” หรือ “ลบล่าสุด”
  • กดเลือกลบทั้งหมด หรือเลือกลบเฉพาะรูปที่ไม่ต้องการ

หลังจากลบตรงนี้ พื้นที่จะถูกคืนจริง ๆ และส่วนใหญ่จะเห็นตัวเลขเพิ่มขึ้นทันที

7) ย้ายรูปและไฟล์ขึ้น Cloud

ถ้าไม่อยากลบรูป เพราะมีความทรงจำเยอะ แนะนำให้ใช้บริการเก็บไฟล์ออนไลน์ (Cloud) เช่น Google Photos, iCloud, OneDrive หรือ Dropbox วิธีนี้ช่วยลดพื้นที่ในเครื่อง แต่ยังเก็บรูปและไฟล์สำคัญไว้ได้ครบ

ตัวอย่างเช่น Google Photos สามารถตั้งค่าให้:

  • สำรองรูปอัตโนมัติเมื่อมี Wi-Fi
  • บีบอัดรูปให้ขนาดเล็กลง แต่ยังดูสวยบนหน้าจอมือถือ
  • เคลียร์รูปต้นฉบับในเครื่องเพื่อคืนพื้นที่

ข้อดีคือเปิดดูรูปได้ทั้งจากมือถือเครื่องอื่นและจากคอมพิวเตอร์ โดยใช้บัญชีเดียวกัน

8) ย้ายไฟล์ไปเก็บในคอมพิวเตอร์หรือแฟลชไดรฟ์

อีกวิธีที่ประหยัดและไม่ต้องจ่ายรายเดือน คือคัดลอกไฟล์จากมือถือไปเก็บในคอมพิวเตอร์ หรือใช้แฟลชไดรฟ์ที่เสียบเข้ากับมือถือได้ (เช่น แบบ USB-C หรือ Lightning) โดยเฉพาะวิดีโอเก่า ๆ รูปจากทริปต่าง ๆ

พอสำรองไว้แล้ว เราก็ลบออกจากมือถือได้อย่างสบายใจ ช่วยคืนพื้นที่ได้เยอะมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอจำนวนมาก

9) ลบแอปที่ไม่ได้ใช้จริง

มือถือหลายเครื่องมีแอปที่โหลดมา “ลองเล่นแป๊บเดียว” แล้วก็ไม่ได้ใช้อีกเลย หรือเกมที่เคยเล่นแค่ช่วงแรกแต่ตอนนี้ไม่ได้แตะแล้ว แอปพวกนี้กินพื้นที่โดยใช่เหตุ วิธีจัดการคือ

  • เปิดรายชื่อแอปทั้งหมดบนเครื่อง
  • เช็กว่าแอปไหนไม่ได้เปิดใช้นานแล้ว
  • ลบเกมเก่า แอปกิจกรรมชั่วคราว แอปที่มีซ้ำหลายตัว

บน iPhone ยังมีฟีเจอร์ “Offload App” ที่ช่วยลบตัวแอป แต่เก็บข้อมูลไว้ ถ้าติดตั้งกลับ ข้อมูลก็ยังอยู่ เป็นวิธีประหยัดพื้นที่แบบกลาง ๆ

10) เคลียร์โฟลเดอร์ดาวน์โหลด (Downloads)

โฟลเดอร์ดาวน์โหลดเป็นแหล่งรวมไฟล์ที่เราลืมว่ามี เช่น เอกสารที่โหลดมาดูครั้งเดียว รูปที่ได้จากเว็บ ไฟล์ .zip หรือไฟล์ต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นอีกแล้ว

แนะนำให้เปิดดูแล้วลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกทั้งหมด โดยเฉพาะไฟล์เอกสารขนาดใหญ่หรือไฟล์ซ้ำ เคลียร์ทีหนึ่ง พื้นที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

11) ลบไฟล์ซ้ำด้วยแอปช่วยค้นหา

บางครั้งเราอาจมีรูปหรือไฟล์ที่ซ้ำกัน โดยเฉพาะรูปที่ถูกส่งต่อหลายครั้งหรือเซฟซ้ำคนละโฟลเดอร์ การหาเองอาจใช้เวลานาน จึงสามารถใช้แอปช่วยค้นหาไฟล์ซ้ำ โดยเฉพาะบน Android ที่มีตัวช่วยในแอป Files by Google หรือแอปจัดการไฟล์ของแต่ละยี่ห้อ

เลือกลบไฟล์ซ้ำที่ไม่จำเป็นออก ก็ช่วยลดพื้นที่ได้อย่างมีนัยสำคัญ

12) เคลียร์พื้นที่ในแอปอีเมล

ถ้าใช้แอปอีเมลบนมือถือ เช่น Gmail, Outlook หรือ Mail ของ iPhone ไฟล์แนบจากอีเมลต่าง ๆ เช่น PDF รูปภาพ และเอกสาร จะถูกดาวน์โหลดมาเก็บในเครื่องด้วย ทำให้กินพื้นที่เพิ่มเรื่อย ๆ

  • ลบอีเมลเก่าที่ไม่จำเป็น
  • ลบอีเมลที่มีไฟล์แนบขนาดใหญ่
  • ตั้งค่าไม่ให้ดาวน์โหลดไฟล์แนบอัตโนมัติ หรือไม่เก็บอีเมลทั้งหมดไว้ในเครื่อง

โดยเฉพาะคนที่ทำงานผ่านอีเมลทุกวัน การเคลียร์ส่วนนี้ช่วยได้มากทีเดียว

13) ปิดการดาวน์โหลดไฟล์อัตโนมัติของบางแอป

แอปบางตัวจะดาวน์โหลดข้อมูลมารอล่วงหน้า เพื่อให้เปิดได้เร็วขึ้น เช่น เพลง วิดีโอ หรือรูปจากฟีดต่าง ๆ แต่สิ่งเหล่านี้ก็แลกมากับการใช้พื้นที่เยอะขึ้นเช่นกัน

  • ในแอปเพลง ปิดการดาวน์โหลดอัลบั้มหรือเพลย์ลิสต์ที่ไม่ฟังบ่อย
  • ในแอปโซเชียล ปิดการโหลดวิดีโออัตโนมัติในความละเอียดสูง
  • ในแอปข่าวหรืออ่านบทความ ปิดการเก็บบทความไว้แบบออฟไลน์

วิธีนี้ไม่ได้คืนพื้นที่ทันที แต่ช่วย “ชะลอ” ไม่ให้พื้นที่เต็มเร็วเกินไป

14) ลบไฟล์ขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็น

ในเมนูจัดการพื้นที่ของมือถือ มักจะมีตัวเลือกแสดง “ไฟล์ขนาดใหญ่” ซึ่งช่วยให้เราเห็นทันทีว่ามีไฟล์ไหนกินพื้นที่เยอะ เช่น วิดีโอความละเอียดสูง ไฟล์งานขนาดใหญ่ หรือไฟล์บันทึกหน้าจอที่ถ่ายไว้นานแล้ว

แค่เลือกดูไฟล์ใหญ่เหล่านี้ แล้วลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นเพียงไม่กี่ไฟล์ ก็สามารถคืนพื้นที่ได้เป็นกิกะไบต์แบบสบาย ๆ

15) บีบอัดวิดีโอให้ไฟล์เล็กลง

ถ้าเป็นสายถ่ายวิดีโอบ่อย แต่ไม่อยากลบ ก็สามารถใช้แอปบีบอัดวิดีโอช่วยได้ เช่นลดจากวิดีโอระดับ 4K ลงมาเหลือ 1080p ซึ่งยังชัดพอสำหรับการดูบนมือถือ แต่ใช้พื้นที่น้อยลงอย่างชัดเจน

วิธีนี้เหมาะกับคนที่อยากเก็บวิดีโอไว้ แต่ต้องการลดขนาดไฟล์ลงเพื่อประหยัดพื้นที่

16) ล้างถังขยะของแอปจัดการไฟล์

นอกจากรูปจะมีถังขยะแล้ว แอปจัดการไฟล์หลายตัวก็มี “ถังขยะ” เหมือนกัน ไฟล์ที่ลบไปจะยังค้างอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะลบทิ้งจริง ๆ ถ้าไม่เข้าไปลบ พื้นที่ก็จะยังไม่ถูกคืนเต็มที่

เมื่อจัดการลบไฟล์เยอะ ๆ แล้ว ควรเข้าไปล้างถังขยะตรงนี้ด้วยทุกครั้ง เพื่อให้ได้พื้นที่กลับมาเต็มจำนวน

17) รีสตาร์ทเครื่องหลังเคลียร์พื้นที่

หลังจากจัดการลบไฟล์ เคลียร์รูป เคลียร์แคชเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้ลองรีสตาร์ทเครื่องหนึ่งครั้ง ระบบจะจัดระเบียบใหม่ ทำให้มือถือทำงานลื่นขึ้น และตัวเลขพื้นที่ที่แสดงในระบบตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น


สรุปสั้น ๆ

การเพิ่มพื้นที่ว่างบนสมาร์ทโฟนไม่ใช่เรื่องยาก แค่หมั่นเคลียร์รูป วิดีโอ ไฟล์แชต ลบแอปที่ไม่ได้ใช้ และย้ายไฟล์สำคัญไปเก็บบน Cloud หรือคอมพิวเตอร์ ก็ช่วยให้มือถือกลับมาลื่น ใช้งานสบาย และยังยืดอายุการใช้งานเครื่องเดิมได้อีกนาน