1) เช็กก่อนว่าอะไรใช้พื้นที่เยอะที่สุด
ก่อนจะเริ่มลบอะไรยกใหญ่ แนะนำให้เริ่มจากการ “เช็กก่อน” ว่าอะไรใช้พื้นที่เยอะที่สุดในเครื่องเรา โดยเข้าไปที่เมนูการจัดเก็บข้อมูล (Storage) ในการตั้งค่า มือถือส่วนใหญ่จะแสดงเป็นกราฟหรือแถบสีว่า อะไรใช้พื้นที่เท่าไหร่ เช่น
- รูปภาพและวิดีโอ
- แอปโซเชียล เช่น LINE, Facebook, TikTok, IG
- เกมต่าง ๆ
- ไฟล์เอกสาร เพลง หรือไฟล์เสียง
- ไฟล์ขยะหรือไฟล์ชั่วคราวของระบบ
พอรู้ว่า “ตัวไหนกินเยอะสุด” เราก็จะจัดการได้ถูกจุด ไม่ต้องลบมั่ว ๆ จนหาอะไรไม่เจอ และไม่ต้องไปยุ่งกับไฟล์ระบบที่สำคัญด้วย
2) ลบรูปและวิดีโอที่ไม่จำเป็น
รูปและวิดีโอคือสิ่งที่กินพื้นที่มากที่สุด โดยเฉพาะวิดีโอที่ถ่ายเล่น ๆ ไฟล์เดียวอาจมีขนาดหลายร้อยเมกะไบต์ วิธีจัดการแบบง่าย ๆ คือ
- ลบรูปที่เบลอ มืด สว่างเกินไป หรือถ่ายรัวไว้หลายใบแล้วใช้จริงแค่ใบเดียว
- ลบวิดีโอที่ดูจบแล้ว ไม่ได้อยากเก็บไว้จริง ๆ
- ลบภาพหน้าจอ (Screenshot) ที่แคปไว้ชั่วคราว เช่น โค้ดส่วนลด แผนที่ รายละเอียดชั่วคราว
- ลบรูปที่ส่งต่อในแชตที่เรามีสำเนาอยู่ในอัลบั้มอื่นแล้ว
ถ้าจะให้เร็ว แนะนำให้เข้าไปจัดการทีละอัลบั้ม เช่น อัลบั้ม “Screenshots”, “Messenger”, “Line” หรือ “Downloads” เคลียร์ทีเดียว พื้นที่คืนมาเยอะมาก
3) ใช้ฟีเจอร์ “เคลียร์พื้นที่” หรือแอปช่วยจัดการความจำ
สมาร์ทโฟนหลายยี่ห้อมีฟีเจอร์ช่วยเคลียร์พื้นที่ให้แบบอัตโนมัติ เช่น “Free up space”, “Optimize Storage” หรือเมนู “ล้างไฟล์ขยะ” ซึ่งจะช่วยลบไฟล์ชั่วคราวและไฟล์ที่ไม่จำเป็น โดยที่ไม่กระทบกับรูปและไฟล์หลักของเรา
สำหรับ Android สามารถใช้แอปอย่างเช่น:
- Files by Google – ช่วยหาว่าไฟล์ไหนใหญ่ ซ้ำ หรือไม่ค่อยใช้
- แอปจัดการเครื่องของแบรนด์ เช่น Samsung, Xiaomi, OPPO ที่มากับเครื่อง
กดแค่ไม่กี่ครั้ง พื้นที่อาจคืนมาหลายร้อยเมก หรือเป็นกิกะไบต์ได้เลย โดยไม่ต้องไล่ลบเองทีละไฟล์ให้มึนหัว
4) เคลียร์แคชของแอปโซเชียล (Facebook, TikTok, IG ฯลฯ)
แอปโซเชียลและวิดีโอสั้นต่าง ๆ จะเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องเพื่อให้เปิดเร็วขึ้น แต่ข้อเสียคือมันกินพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว วิธีจัดการมีดังนี้
บน Android
- เข้าไปที่การตั้งค่า → แอป → เลือกแอปที่ใช้บ่อย เช่น Facebook, IG, TikTok
- กด “ล้างแคช” (Cache) – ไม่ใช่ “ล้างข้อมูล” เด็ดขาด
บน iPhone
- บางแอปต้องลบแล้วติดตั้งใหม่ เพื่อให้ไฟล์ขยะหายไป
- ใช้ฟีเจอร์ “Offload App” เพื่อลบตัวแอปออก แต่เก็บข้อมูลสำคัญไว้
แค่เคลียร์แคชแอปโซเชียลไม่กี่ตัว พื้นที่อาจคืนมาหลายกิกะไบต์แบบไม่น่าเชื่อ
5) เคลียร์ไฟล์แชต โดยเฉพาะ LINE
LINE เป็นหนึ่งในแอปที่กินพื้นที่หนักมาก เพราะมีทั้งรูป วิดีโอ สติกเกอร์ ไฟล์งาน และรูปในอัลบั้มต่าง ๆ ยิ่งอยู่ในหลายกลุ่ม ยิ่งใช้พื้นที่เยอะ วิธีจัดการคือ
- เข้าไปในห้องแชตที่ใช้บ่อย แล้วลบไฟล์รูป/วิดีโอเก่า ๆ
- ลบไฟล์เสียงที่ไม่จำเป็น
- ตรวจอัลบั้มในห้องแชต ถ้ามีรูปซ้ำกับที่เซฟในอัลบั้มภาพแล้ว ก็ลบได้
- ตั้งค่าปิดการดาวน์โหลดไฟล์อัตโนมัติ เพื่อลดไฟล์ที่ไม่จำเป็น
แค่เคลียร์กลุ่มครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนใหญ่ ๆ กลุ่มเดียว ก็อาจคืนพื้นที่ได้เยอะมากแล้ว
6) ล้าง “อัลบั้มที่ลบล่าสุด” หรือถังขยะรูปภาพ
หลายคนเข้าใจว่าพอลบรูปแล้ว รูปจะหายทันที แต่จริง ๆ แล้วมือถือจะเก็บไว้ในโฟลเดอร์ “ถังขยะ” หรือ “ลบล่าสุด” อีกระยะหนึ่ง ซึ่งทำให้พื้นที่ยังไม่ถูกคืน วิธีแก้คือ
- เข้าไปที่อัลบั้ม “Recently Deleted” หรือ “ลบล่าสุด”
- กดเลือกลบทั้งหมด หรือเลือกลบเฉพาะรูปที่ไม่ต้องการ
หลังจากลบตรงนี้ พื้นที่จะถูกคืนจริง ๆ และส่วนใหญ่จะเห็นตัวเลขเพิ่มขึ้นทันที
7) ย้ายรูปและไฟล์ขึ้น Cloud
ถ้าไม่อยากลบรูป เพราะมีความทรงจำเยอะ แนะนำให้ใช้บริการเก็บไฟล์ออนไลน์ (Cloud) เช่น Google Photos, iCloud, OneDrive หรือ Dropbox วิธีนี้ช่วยลดพื้นที่ในเครื่อง แต่ยังเก็บรูปและไฟล์สำคัญไว้ได้ครบ
ตัวอย่างเช่น Google Photos สามารถตั้งค่าให้:
- สำรองรูปอัตโนมัติเมื่อมี Wi-Fi
- บีบอัดรูปให้ขนาดเล็กลง แต่ยังดูสวยบนหน้าจอมือถือ
- เคลียร์รูปต้นฉบับในเครื่องเพื่อคืนพื้นที่
ข้อดีคือเปิดดูรูปได้ทั้งจากมือถือเครื่องอื่นและจากคอมพิวเตอร์ โดยใช้บัญชีเดียวกัน
8) ย้ายไฟล์ไปเก็บในคอมพิวเตอร์หรือแฟลชไดรฟ์
อีกวิธีที่ประหยัดและไม่ต้องจ่ายรายเดือน คือคัดลอกไฟล์จากมือถือไปเก็บในคอมพิวเตอร์ หรือใช้แฟลชไดรฟ์ที่เสียบเข้ากับมือถือได้ (เช่น แบบ USB-C หรือ Lightning) โดยเฉพาะวิดีโอเก่า ๆ รูปจากทริปต่าง ๆ
พอสำรองไว้แล้ว เราก็ลบออกจากมือถือได้อย่างสบายใจ ช่วยคืนพื้นที่ได้เยอะมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอจำนวนมาก
9) ลบแอปที่ไม่ได้ใช้จริง
มือถือหลายเครื่องมีแอปที่โหลดมา “ลองเล่นแป๊บเดียว” แล้วก็ไม่ได้ใช้อีกเลย หรือเกมที่เคยเล่นแค่ช่วงแรกแต่ตอนนี้ไม่ได้แตะแล้ว แอปพวกนี้กินพื้นที่โดยใช่เหตุ วิธีจัดการคือ
- เปิดรายชื่อแอปทั้งหมดบนเครื่อง
- เช็กว่าแอปไหนไม่ได้เปิดใช้นานแล้ว
- ลบเกมเก่า แอปกิจกรรมชั่วคราว แอปที่มีซ้ำหลายตัว
บน iPhone ยังมีฟีเจอร์ “Offload App” ที่ช่วยลบตัวแอป แต่เก็บข้อมูลไว้ ถ้าติดตั้งกลับ ข้อมูลก็ยังอยู่ เป็นวิธีประหยัดพื้นที่แบบกลาง ๆ
10) เคลียร์โฟลเดอร์ดาวน์โหลด (Downloads)
โฟลเดอร์ดาวน์โหลดเป็นแหล่งรวมไฟล์ที่เราลืมว่ามี เช่น เอกสารที่โหลดมาดูครั้งเดียว รูปที่ได้จากเว็บ ไฟล์ .zip หรือไฟล์ต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นอีกแล้ว
แนะนำให้เปิดดูแล้วลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกทั้งหมด โดยเฉพาะไฟล์เอกสารขนาดใหญ่หรือไฟล์ซ้ำ เคลียร์ทีหนึ่ง พื้นที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
11) ลบไฟล์ซ้ำด้วยแอปช่วยค้นหา
บางครั้งเราอาจมีรูปหรือไฟล์ที่ซ้ำกัน โดยเฉพาะรูปที่ถูกส่งต่อหลายครั้งหรือเซฟซ้ำคนละโฟลเดอร์ การหาเองอาจใช้เวลานาน จึงสามารถใช้แอปช่วยค้นหาไฟล์ซ้ำ โดยเฉพาะบน Android ที่มีตัวช่วยในแอป Files by Google หรือแอปจัดการไฟล์ของแต่ละยี่ห้อ
เลือกลบไฟล์ซ้ำที่ไม่จำเป็นออก ก็ช่วยลดพื้นที่ได้อย่างมีนัยสำคัญ
12) เคลียร์พื้นที่ในแอปอีเมล
ถ้าใช้แอปอีเมลบนมือถือ เช่น Gmail, Outlook หรือ Mail ของ iPhone ไฟล์แนบจากอีเมลต่าง ๆ เช่น PDF รูปภาพ และเอกสาร จะถูกดาวน์โหลดมาเก็บในเครื่องด้วย ทำให้กินพื้นที่เพิ่มเรื่อย ๆ
- ลบอีเมลเก่าที่ไม่จำเป็น
- ลบอีเมลที่มีไฟล์แนบขนาดใหญ่
- ตั้งค่าไม่ให้ดาวน์โหลดไฟล์แนบอัตโนมัติ หรือไม่เก็บอีเมลทั้งหมดไว้ในเครื่อง
โดยเฉพาะคนที่ทำงานผ่านอีเมลทุกวัน การเคลียร์ส่วนนี้ช่วยได้มากทีเดียว
13) ปิดการดาวน์โหลดไฟล์อัตโนมัติของบางแอป
แอปบางตัวจะดาวน์โหลดข้อมูลมารอล่วงหน้า เพื่อให้เปิดได้เร็วขึ้น เช่น เพลง วิดีโอ หรือรูปจากฟีดต่าง ๆ แต่สิ่งเหล่านี้ก็แลกมากับการใช้พื้นที่เยอะขึ้นเช่นกัน
- ในแอปเพลง ปิดการดาวน์โหลดอัลบั้มหรือเพลย์ลิสต์ที่ไม่ฟังบ่อย
- ในแอปโซเชียล ปิดการโหลดวิดีโออัตโนมัติในความละเอียดสูง
- ในแอปข่าวหรืออ่านบทความ ปิดการเก็บบทความไว้แบบออฟไลน์
วิธีนี้ไม่ได้คืนพื้นที่ทันที แต่ช่วย “ชะลอ” ไม่ให้พื้นที่เต็มเร็วเกินไป
14) ลบไฟล์ขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็น
ในเมนูจัดการพื้นที่ของมือถือ มักจะมีตัวเลือกแสดง “ไฟล์ขนาดใหญ่” ซึ่งช่วยให้เราเห็นทันทีว่ามีไฟล์ไหนกินพื้นที่เยอะ เช่น วิดีโอความละเอียดสูง ไฟล์งานขนาดใหญ่ หรือไฟล์บันทึกหน้าจอที่ถ่ายไว้นานแล้ว
แค่เลือกดูไฟล์ใหญ่เหล่านี้ แล้วลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นเพียงไม่กี่ไฟล์ ก็สามารถคืนพื้นที่ได้เป็นกิกะไบต์แบบสบาย ๆ
15) บีบอัดวิดีโอให้ไฟล์เล็กลง
ถ้าเป็นสายถ่ายวิดีโอบ่อย แต่ไม่อยากลบ ก็สามารถใช้แอปบีบอัดวิดีโอช่วยได้ เช่นลดจากวิดีโอระดับ 4K ลงมาเหลือ 1080p ซึ่งยังชัดพอสำหรับการดูบนมือถือ แต่ใช้พื้นที่น้อยลงอย่างชัดเจน
วิธีนี้เหมาะกับคนที่อยากเก็บวิดีโอไว้ แต่ต้องการลดขนาดไฟล์ลงเพื่อประหยัดพื้นที่
16) ล้างถังขยะของแอปจัดการไฟล์
นอกจากรูปจะมีถังขยะแล้ว แอปจัดการไฟล์หลายตัวก็มี “ถังขยะ” เหมือนกัน ไฟล์ที่ลบไปจะยังค้างอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะลบทิ้งจริง ๆ ถ้าไม่เข้าไปลบ พื้นที่ก็จะยังไม่ถูกคืนเต็มที่
เมื่อจัดการลบไฟล์เยอะ ๆ แล้ว ควรเข้าไปล้างถังขยะตรงนี้ด้วยทุกครั้ง เพื่อให้ได้พื้นที่กลับมาเต็มจำนวน
17) รีสตาร์ทเครื่องหลังเคลียร์พื้นที่
หลังจากจัดการลบไฟล์ เคลียร์รูป เคลียร์แคชเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้ลองรีสตาร์ทเครื่องหนึ่งครั้ง ระบบจะจัดระเบียบใหม่ ทำให้มือถือทำงานลื่นขึ้น และตัวเลขพื้นที่ที่แสดงในระบบตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น
สรุปสั้น ๆ
การเพิ่มพื้นที่ว่างบนสมาร์ทโฟนไม่ใช่เรื่องยาก แค่หมั่นเคลียร์รูป วิดีโอ ไฟล์แชต ลบแอปที่ไม่ได้ใช้ และย้ายไฟล์สำคัญไปเก็บบน Cloud หรือคอมพิวเตอร์ ก็ช่วยให้มือถือกลับมาลื่น ใช้งานสบาย และยังยืดอายุการใช้งานเครื่องเดิมได้อีกนาน


Social Plugin