⭐ วิธี Reset Windows แบบละเอียด แต่เล่าให้ง่ายที่สุด
การ Reset Windows เป็นเหมือนการล้างเครื่องให้กลับมาใหม่ แต่ไม่ต้องลงระบบใหม่เองให้ยุ่งยาก Windows ทำให้แบบอัตโนมัติ ขั้นตอนก็ไม่ซับซ้อน โดยวันนี้เราจะค่อยๆ คุยกันตั้งแต่ความหมาย วิธีทำ ข้อดี ข้อควรระวัง ไปจนถึงหลังรีเซ็ตต้องทำอะไรต่อ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และคนที่ใช้คอมเป็นประจำแต่ไม่ค่อยอยากเข้าเมนูยากๆ ครับ
1) Reset Windows คืออะไร?
พูดง่ายๆ คือการพาคอมกลับไปเป็นเหมือนตอนเพิ่งซื้อมาวันแรก โปรแกรมที่ลงไว้จะถูกลบออก (ขึ้นอยู่กับโหมดที่เลือก) และระบบจะตั้งค่าใหม่ทั้งหมด ทำให้คอมกลับมาลื่นขึ้น แก้ปัญหาเครื่องค้าง เปิดช้า หรือไวรัสบางประเภทได้ดีมาก
จุดเด่นคือ
- ไม่ต้องใช้แฟลชไดร์ฟ
- ไม่ต้องลง Windows ใหม่เอง
- กดไม่กี่ครั้ง ระบบจะจัดการให้หมด
- ใช้ได้ทั้ง Windows 10 และ 11
2) สัญญาณที่บอกว่า “ควร Reset ได้แล้ว”
หลายคนลังเลว่าจะรีเซ็ตเมื่อไหร่ บางทีอาการมันก็ค่อยๆ สะสมจนเราชิน แต่จริงๆ นี่คือสัญญาณเตือนสำคัญ
- เครื่องเปิดช้าผิดปกติ ทั้งที่สเปกยังดี
- โปรแกรมค้างบ่อย แม้จะลงใหม่แล้ว
- มีไวรัสหรือไฟล์แปลกๆ แม้จะแสกนแล้วก็ยังไม่หาย
- เปิด Windows แล้วขึ้นหน้าจอแปลกๆ
- เครื่องเริ่มอืดหลังใช้งานมานานหลายปี
- ตั้งค่าหลายอย่างผิดเพี้ยนจนแก้ยาก
- ใช้เครื่องร่วมกับคนอื่นแล้วไม่มั่นใจว่าจะมีโปรแกรมแปลกๆ ติดมาไหม
ถ้าเจอหลายอย่างพร้อมกัน การรีเซ็ตช่วยได้แน่นอนครับ
3) ก่อนรีเซ็ต ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
ถึงจะไม่ใช่ขั้นตอนยาก แต่เราควรเตรียมตัวเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ไฟล์สำคัญหาย
► 1. สำรองไฟล์ที่จำเป็น
แม้ว่าจะมีตัวเลือก “เก็บไฟล์ไว้” แต่เพื่อความปลอดภัยควรสำรองไว้เสมอ เช่น
- เอกสาร
- รูปภาพ
- ไฟล์งาน
- เพลง / วิดีโอ
แนะนำให้เก็บไว้ใน USB, External HDD หรือ OneDrive / Google Drive
► 2. เช็คแบตเตอรี่
ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กควรต่อสายชาร์จไว้ตลอดเวลา ห้ามให้แบตหมดระหว่างรีเซ็ตเด็ดขาด
► 3. จดรหัสผ่านสำคัญ
หลายคนลืมรหัสหลังรีเซ็ต เช่น รหัสอีเมลหรือรหัส Wi-Fi เตรียมไว้หน่อยจะได้ไม่ยุ่งทีหลัง
► 4. ถอดอุปกรณ์ไม่จำเป็น
เช่น แฟลชไดร์ฟ กล้อง เครื่องปริ้นท์ เพื่อให้ระบบทำงานได้เร็วขึ้น
4) วิธี Reset Windows แบบ “Keep my files” (เก็บไฟล์ได้)
เหมาะกับคนที่อยากให้ระบบกลับมาใหม่ แต่ยังต้องการเก็บรูปและไฟล์งานไว้
วิธีทำ
- กดปุ่ม Start → เปิด Settings
- เลือก System
- เลือก Recovery
- เลือก Reset this PC
- เลือก Keep my files
- รอให้ระบบประมวลผล → กด Reset
สิ่งที่จะเกิดขึ้น
- ไฟล์ใน Desktop / Documents / Pictures จะถูกเก็บไว้
- โปรแกรมต่างๆ จะถูกลบหมด
- คอมจะกลับมาเหมือนใหม่ แต่ไฟล์เรายังอยู่ครบ
เหมาะกับคนที่กลัวไฟล์หายและไม่อยากลบทุกอย่างทั้งหมด
5) วิธี Reset Windows แบบ “Remove everything” (ล้างใหม่ทั้งเครื่อง)
นี่คือวิธีที่ล้างหมดจดที่สุด เหมาะกับคนขายเครื่องต่อ หรือมีไวรัสร้ายแรง
วิธีทำ
คล้ายกับแบบแรก แต่เลือก Remove everything
สิ่งที่จะถูกลบ
- ทุกไฟล์ในเครื่อง
- ทุกโปรแกรม
- การตั้งค่าทั้งหมด
หลังเสร็จคอมจะเหมือนเพิ่งซื้อมาใหม่จริงๆ สะอาด ลื่น และปลอดภัยที่สุด
6) เลือก “Cloud download” หรือ “Local reinstall” ดี?
ตอนรีเซ็ต Windows จะให้เลือก 2 แบบ
► Cloud download
- ดาวน์โหลด Windows ใหม่จากอินเทอร์เน็ต
- ข้อดี: ได้ไฟล์ระบบใหม่หมดจด
- ข้อเสีย: ใช้เน็ตเยอะประมาณ 4–5 GB
► Local reinstall
- ใช้ไฟล์ที่อยู่ในเครื่องรีเซ็ต
- ข้อดี: ทำได้แม้ไม่มีเน็ต
- ข้อเสีย: ถ้าไฟล์เดิมมีปัญหา อาจรีเซ็ตแล้วไม่หายขาด
ถ้าเน็ตดี แนะนำ Cloud download
7) ใช้เวลารีเซ็ตนานไหม?
ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง เช่น ความเร็วของ SSD จำนวนไฟล์ และอินเทอร์เน็ต (ถ้าเลือกดาวน์โหลด)
โดยทั่วไป
- แบบเก็บไฟล์ → ประมาณ 30–60 นาที
- แบบล้างหมด → ประมาณ 40–90 นาที
- แบบ Cloud → อาจใช้ 1–2 ชั่วโมง
ระหว่างนี้ห้ามปิดเครื่องเด็ดขาด
8) หลัง Reset Windows ต้องทำอะไรต่อ?
พอรีเซ็ตเสร็จ เครื่องจะเหมือนใหม่ เราต้องตั้งค่าเล็กน้อยให้พร้อมใช้งาน
► 1. อัปเดต Windows รอบแรก
เพื่อให้ระบบใหม่สมบูรณ์
► 2. ลงโปรแกรมที่จำเป็น
- Chrome / Edge
- Office
- โปรแกรมทำงานต่างๆ
- แอปที่ใช้งานประจำ
► 3. เชื่อมอินเทอร์เน็ตใหม่
บางครั้ง Wi-Fi อาจต้องใส่รหัสใหม่
► 4. ลงไดรเวอร์
ส่วนใหญ่ Windows จะลงให้อัตโนมัติ แต่ถ้าใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น ปากกา เมาส์เกมมิ่ง อาจต้องลงเพิ่มเองเล็กน้อย
► 5. ตั้งค่าคีย์บอร์ดและภาษา
เพื่อให้พิมพ์ไทย–อังกฤษได้ตามปกติ
9) ข้อดีของการ Reset Windows
การรีเซ็ตช่วยแก้ปัญหาได้หลายอย่างแบบเห็นผลทันที
- เครื่องลื่นขึ้นมาก
- เปิดโปรแกรมเร็วขึ้น
- ไวรัสหรือโปรแกรมแปลกๆ หาย
- ลบไฟล์ขยะสะสมได้หมด
- ทำให้เครื่องเหมือนใหม่โดยไม่เสียเวลา
- ไม่ต้องเสียเงินให้ร้านซ่อม
- ช่วยให้ระบบเสถียรขึ้น
หลายคนทำครั้งเดียวแล้วรู้สึกว่า “เหมือนได้คอมใหม่เลย”
10) ข้อควรระวังสำคัญ
แม้ว่าการรีเซ็ตจะปลอดภัย แต่ก็มีบางอย่างที่ควรรู้
- ไฟล์บางชนิดอาจหายได้หากไม่ได้สำรอง
- โปรแกรมต้องลงใหม่ทั้งหมด
- รหัสผ่านหลายอย่างอาจต้องใส่ใหม่
- ถ้ามีไฟล์งานอยู่ไดรฟ์อื่นควรเช็คให้แน่ใจว่าไม่โดนลบ
- ไม่ควรรีเซ็ตตอนแบตใกล้หมด
ถ้าทำตามคำแนะนำก่อนรีเซ็ต ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดครับ
11) ควร Reset Windows บ่อยแค่ไหน?
จริงๆ ไม่จำเป็นต้องทำบ่อยมาก แต่แนะนำทุก 1–2 ปี เพื่อเคลียร์ระบบ หรือเมื่อคอมช้าผิดปกติ หรือหลังมีไวรัสรุนแรง ทำไม่บ่อย แต่ทำตอนจำเป็นจะดีที่สุด
12) Reset กับ Restore ต่างกันอย่างไร?
คนมักสับสนสองอย่างนี้
Reset Windows
- ล้างระบบให้เหมือนใหม่
- แก้ปัญหาหนักได้ดีกว่า
System Restore
- ย้อนกลับไปจุดก่อนหน้า
- เหมาะกับแก้ปัญหาจุกจิก เช่น ลงโปรแกรมแล้วเครื่องงอแง
ถ้าเครื่องช้าหนักมาก ใช้ Reset ดีกว่าแน่นอน
13) ทำไม Reset ถึงช่วยให้เครื่องเร็วขึ้น?
เพราะมันลบทุกอย่างที่ทำให้เครื่องช้า เช่น
- โปรแกรมขยะที่ติดมาโดยไม่รู้ตัว
- ไฟล์เก่า
- การตั้งค่าที่เพี้ยน
- ไวรัส
- โปรแกรมทำงานเบื้องหลังเยอะเกินไป
พอเคลียร์ทั้งหมด ระบบก็เหมือนใหม่ ทำงานลื่นขึ้นทันที
14) ใช้ Reset สำหรับเครื่องที่ซื้อมาแล้วมีแต่ภาษาต่างประเทศได้ไหม?
ได้ครับ แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนภาษาเมนู Windows ต้องดาวน์โหลดภาษาที่ต้องการเพิ่มภายหลัง ไม่กระทบกับการรีเซ็ต
15) เหมาะกับใครที่สุด?
- คนที่เครื่องช้ามานาน
- คนที่อยากให้คอมเหมือนใหม่
- คนที่โดนไวรัส
- คนที่ต้องการขายคอมต่อ
- คนที่แก้ปัญหาไม่ออก
การรีเซ็ตช่วยให้เริ่มต้นใหม่ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ


Social Plugin