วิธีจัดการไวรัสเบื้องต้น

วิธีจัดการไวรัสเบื้องต้น

คุณทราบหรือไม่ว่า เวลาคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเริ่มทำงานช้า เปิดไฟล์ไม่ได้ เด้งโฆษณาแปลก ๆ หรือมีพฤติกรรมที่เราไม่ได้ทำเอง หลายครั้งสาเหตุมักเกี่ยวกับ “ไวรัส” 

เป็นโปรแกรมไม่พึงประสงค์ที่แอบเข้ามาแบบไม่รู้ตัว ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นถึงจะจัดการได้ แต่จริง ๆ แล้วการดูแลเครื่องให้ปลอดภัยแบบพื้นฐานนั้นทำได้ง่ายกว่าที่คิดมาก และเราสามารถลดความเสี่ยงได้ตั้งแต่ขั้นตอนเล็ก ๆ ใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตเครื่อง ใช้โปรแกรมสแกนฟรี ตรวจสอบไฟล์ก่อนเปิด หรือการตั้งค่าบัญชีให้รัดกุมขึ้น 

บทความนี้จะพาไปดูวิธีจัดการไวรัสเบื้องต้นแบบภาษาง่าย ๆ ทำตามได้ทันที เหมาะกับทุกคนที่อยากดูแลคอมให้ปลอดภัย ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องเก่งไอที ก็ป้องกันไวรัสได้ครับ

1) สังเกตอาการผิดปกติของเครื่องก่อน

ก่อนจะเริ่มแก้ปัญหา เราต้องดูให้ชัดว่าเครื่องมีอาการน่าสงสัยหรือเปล่า เช่น

  • เปิดเครื่องช้าลงกว่าปกติ
  • มีโฆษณาเด้งเอง ทั้งที่ไม่ได้เข้าเว็บอะไร
  • ไฟล์บางอย่างเปิดไม่ได้ หรือหายไป
  • พัดลมคอมหมุนแรงเหมือนทำงานหนักตลอดเวลา
  • โปรแกรมบางตัวเด้งขึ้นมาทั้งที่เราไม่ได้กดเปิด

ถ้าเจออาการแบบนี้บ่อย ๆ ก็เป็นสัญญาณดีว่าควรเริ่มตรวจเช็กเครื่องแล้วครับ

2) ปิดอินเทอร์เน็ตก่อน เพื่อหยุดความเสียหาย

ถ้าสงสัยว่าเจอไวรัส สิ่งแรกที่ควรทำคือ “ตัดเน็ตก่อน” เพราะไวรัสหลายตัวอาจเชื่อมต่อออกไปข้างนอก ส่งข้อมูล หรือโหลดตัวเสริมเข้ามาเพิ่ม การปิดเน็ตจะช่วยหยุดความเสียหายได้ทันที ทำให้การแก้ไขต่อไปง่ายขึ้นมาก

3) รีสตาร์ทและเข้าโหมดปลอดภัย (ถ้าทำได้)

โหมดปลอดภัยจะทำให้ระบบเปิดขึ้นแบบเบา ๆ ไม่โหลดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น ซึ่งช่วยให้ไวรัสจำนวนมากทำงานไม่ได้ ถ้าเข้าโหมดปลอดภัยได้ ให้ลองสแกนไวรัสหรือถอนโปรแกรมแปลก ๆ ได้ง่ายขึ้น

แต่ถ้าทำไม่เป็น ก็ไม่ต้องฝืนครับ ข้ามขั้นนี้ไปใช้วิธีอื่นต่อได้เลย ไม่ต้องกังวล

4) ใช้โปรแกรมสแกนไวรัสฟรีที่น่าเชื่อถือ

หลายคนคิดว่าต้องเสียเงินซื้อโปรแกรมแพง ๆ แต่จริง ๆ ตัวฟรีก็ใช้งานได้ดี เช่น

  • Microsoft Defender (ติดมากับ Windows อยู่แล้ว)
  • Avast Free
  • AVG Free
  • Bitdefender Free

แค่เปิดสแกนแบบเต็มระบบแล้วปล่อยให้โปรแกรมค้นหาและจัดการให้ ระบบก็ปลอดภัยขึ้นได้เยอะแล้วครับ

ข้อควรระวัง: อย่าดาวน์โหลดโปรแกรมสแกนจากเว็บแปลก ๆ เพราะมีโอกาสเป็นไวรัสปลอมได้เหมือนกัน

5) ลบโปรแกรมที่ไม่รู้จักออกให้หมด

ไวรัสหลายตัวซ่อนอยู่ในโปรแกรมที่ติดตั้งมาแบบเราไม่รู้ตัว เช่น โปรแกรมเร่งความเร็วปลอม โปรแกรมทำความสะอาดเครื่องปลอม หรือโปรแกรมทดลองใช้ที่ไม่จำเป็น

ลองเช็กตามนี้:

  • เปิดดูรายการโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง
  • มองหาชื่อโปรแกรมแปลก ๆ หรือไม่คุ้นตา
  • มองหาตัวที่จำไม่ได้ว่าเคยติดตั้ง
  • ถ้าไม่แน่ใจและไม่เคยใช้ ลบออกได้เลย

ยิ่งลบโปรแกรมแปลก ๆ ได้เร็วเท่าไหร่ โอกาสที่อาการผิดปกติจะหายก็สูงขึ้นเท่านั้นครับ

6) ปิดโปรแกรมที่เปิดเองตอนเปิดเครื่อง

บางครั้งไวรัสหรือโปรแกรมโฆษณาก็ถูกตั้งให้เปิดขึ้นมาพร้อมกับระบบ ทำให้เราเห็นหน้าต่างแปลก ๆ ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง

แนวทางง่าย ๆ คือ:

  • เข้าไปดูรายการโปรแกรมที่เปิดตอนเริ่มต้นระบบ (Startup)
  • ปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น หรือโปรแกรมที่ไม่รู้จัก
  • เว้นเฉพาะโปรแกรมสำคัญ เช่น ตัวระบบ หรือโปรแกรมที่ใช้จริง ๆ

จากนั้นลองรีสตาร์ทเครื่องดูใหม่ ถ้าอาการดีขึ้น แสดงว่ามาเจอจุดผิดปกติถูกทางแล้วครับ

7) เคลียร์ไฟล์ขยะและล้างเบราว์เซอร์

ไวรัสบางตัวไม่ได้มาในรูปแบบโปรแกรม แต่ซ่อนตัวในเว็บเบราว์เซอร์ เช่น ส่วนเสริม (Extension) หรือโฆษณาเด้งเอง

สิ่งที่ควรทำคือ:

  • ล้างประวัติการท่องเว็บและคุกกี้
  • ลบส่วนเสริมที่ไม่รู้จัก หรือไม่ได้ใช้งาน
  • ตั้งค่าหน้าแรกของเว็บกลับมาเป็นหน้าที่เราใช้ประจำ

หลังจากล้างแล้ว ส่วนใหญ่เครื่องจะทำงานลื่นขึ้น และโฆษณากวนใจก็มักจะน้อยลงครับ

8) อัปเดต Windows, macOS, Android, iOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

ไวรัสจำนวนมากใช้ “ช่องโหว่” ของระบบในการเข้ามา ถ้าเราไม่อัปเดต ระบบก็จะยังมีรูรั่วให้มันแอบเข้ามาโจมตีได้

แค่กดอัปเดตระบบปฏิบัติการให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ก็ช่วยป้องกันปัญหาได้เยอะแล้ว แม้อาจใช้เวลารีสตาร์ทบ้าง แต่ถือว่าคุ้มกับความปลอดภัยในระยะยาวครับ

9) สำรองข้อมูลเป็นประจำ

ไวรัสบางประเภท เช่น Ransomware จะล็อกไฟล์จนเราเปิดไม่ได้ ถ้าไม่มีสำรองข้อมูลไว้เลยก็เสี่ยงเสียงานสำคัญทั้งหมด

แนวทางสำรองข้อมูลง่าย ๆ:

  • สำรองไฟล์สำคัญลง External Hard Disk หรือแฟลชไดรฟ์
  • ใช้บริการ Cloud เช่น Google Drive, OneDrive หรือ iCloud
  • สำรองอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นถ้ามีงานสำคัญ

ที่สำคัญคือไม่ควรเสียบฮาร์ดดิสก์สำรองค้างไว้ตลอดเวลา เพราะถ้าเครื่องติดไวรัส ไวรัสอาจตามเข้าไปในฮาร์ดดิสก์สำรองได้เหมือนกันครับ

10) หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

ไวรัสส่วนใหญ่หลบซ่อนอยู่ในไฟล์ที่เราดาวน์โหลดเอง เช่น

  • โปรแกรมเถื่อน โปรแกรมแคร็ก
  • ไฟล์ติดตั้งจากเว็บที่ไม่รู้จัก
  • ไฟล์แนบในอีเมลจากคนแปลกหน้า
  • ลิงก์ดาวน์โหลดที่ขึ้นมาจากโฆษณาเด้ง

กฎง่าย ๆ: ถ้าไม่มั่นใจที่มา อย่ากดดาวน์โหลด

แค่ระวังจุดนี้ให้มาก ก็ลดโอกาสติดไวรัสไปได้เยอะมากแล้วครับ

11) ตั้งรหัสผ่านให้รัดกุมขึ้น

ถึงจะไม่ใช่ไวรัสโดยตรง แต่การตั้งรหัสผ่านให้เดายาก จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่นแอบเข้าบัญชีเรา หรือแอบเปลี่ยนรหัสต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ

เคล็ดลับรหัสผ่านแบบเข้าใจง่าย:

  • ยาวประมาณ 10 ตัวอักษรขึ้นไป
  • ผสมตัวอักษรและตัวเลขเข้าด้วยกัน
  • หลีกเลี่ยงชื่อเล่น เบอร์โทร หรือวันเกิด

ถ้ากลัวจำไม่ได้ สามารถใช้ตัวจัดการรหัสผ่านที่มากับเบราว์เซอร์ เช่น ของ Google หรือ iCloud ช่วยเก็บรหัสได้ครับ

12) ตรวจสอบแฟลชไดรฟ์ก่อนเปิดไฟล์

ไวรัสจำนวนไม่น้อยแพร่ผ่านแฟลชไดรฟ์ โดยเฉพาะเวลาย้ายไฟล์ไปมาหลายเครื่อง

วิธีลดความเสี่ยง:

  • เสียบแฟลชไดรฟ์แล้วสแกนด้วยโปรแกรมสแกนไวรัสก่อนทุกครั้ง
  • อย่าดับเบิลคลิกเปิดไฟล์ที่ชื่อแปลก ๆ หรือไอคอนเหมือนโฟลเดอร์แต่ไม่ใช่
  • หลีกเลี่ยงแฟลชไดรฟ์จากคนที่ไม่รู้จัก หรือเครื่องสาธารณะ

13) ระวังป๊อปอัป “เตือนว่ามีไวรัส” จากเว็บหลอก

ช่วงหลังมักมีหน้าเว็บปลอมเด้งเตือนว่า “เครื่องคุณติดไวรัส กดที่นี่เพื่อล้างด่วน!” ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นแค่หน้าโฆษณาหลอกให้เรากด

ถ้าเจอแบบนี้ ให้ปิดหน้าเว็บไปเลย ไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ บนป๊อปอัป และไม่ต้องติดตั้งอะไรตามที่เว็บบอก ถ้ากังวลจริง ๆ ให้ใช้โปรแกรมสแกนไวรัสที่เรามั่นใจแทนครับ

14) ถ้าแก้เองไม่ไหว อาจต้องรีเซ็ตระบบ

ถ้าทำทุกวิธีแล้ว แต่อาการยังหนัก เช่น เปิดเครื่องไม่ขึ้น โปรแกรมเด้งไม่หยุด หรือไฟล์สำคัญถูกล็อกจนเปิดไม่ได้ การรีเซ็ตเครื่องกลับค่าเริ่มต้นอาจเป็นทางเลือกที่เร็วที่สุด

สิ่งสำคัญก่อนรีเซ็ต:

  • สำรองไฟล์สำคัญออกมาก่อนให้เรียบร้อย
  • หลังรีเซ็ต ติดตั้งโปรแกรมเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น
  • หลีกเลี่ยงการโหลดไฟล์จากแหล่งเดิมที่ทำให้เคยติดไวรัส

15) ปรับนิสัยการใช้งานให้ปลอดภัยในระยะยาว

วิธีป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดไม่ใช่โปรแกรม แต่คือ “นิสัยการใช้งานของเราเอง”

ลองทำให้เป็นนิสัย:

  • ไม่กดลิงก์สุ่มสี่สุ่มห้า
  • ไม่โหลดโปรแกรมเถื่อนหรือไฟล์จากเว็บแปลก ๆ
  • อัปเดตระบบและโปรแกรมเป็นประจำ
  • สำรองข้อมูลสม่ำเสมอ
  • ใช้โปรแกรมสแกนไวรัสตรวจเครื่องเป็นระยะ

ถ้าทำข้อข้างต้นเหล่านี้ได้เรื่อย ๆ จะพบว่า ปัญหาไวรัสหรือเครื่องรวน เพราะโปรแกรมแปลก ๆ ลดลงอย่างชัดเจนอย่างแน่นอน ลองนำไปใช้กันดู