สมาร์ทโฟนที่ใช้งานไปสักระยะ มักเริ่มมีอาการช้าลง เปิดแอปแล้วค้าง หน่วง หรือแบตเตอรี่หมดเร็ว สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งคือ
แอปที่ทำงานค้างอยู่เบื้องหลัง โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว
แอปเหล่านี้อาจดึงหน่วยความจำ (RAM) ใช้พลังประมวลผล และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ส่งผลให้เครื่องทำงานหนักกว่าที่ควร บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดว่าแอปใดทำให้เครื่องช้า วิธีตรวจสอบ และขั้นตอนการปิดแอปอย่างถูกต้องทั้งบน Android และ iPhone พร้อมคำแนะนำเพิ่มเติมในการตั้งค่าเครื่องให้ลื่นขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ถนัดด้านเทคนิค อ่านเข้าใจง่าย และสามารถนำไปทำตามได้ทันที เพื่อให้สมาร์ทโฟนกลับมาใช้งานได้ลื่นไหล
ประหยัดแบต และยืดอายุการใช้งานในระยะยาว
ทำไมแอปเบื้องหลังถึงทำให้เครื่องช้า
- ใช้ RAM จำนวนมาก ทำให้แอปอื่นเปิดช้าหรือเด้ง
- ใช้ CPU ต่อเนื่อง เช่น แอปโซเชียล แอปแชต แอปติดตามตำแหน่ง
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ส่งผลให้แบตหมดเร็ว
- บางแอปซิงก์ข้อมูลอัตโนมัติ แม้ไม่ได้เปิดใช้งาน
วิธีตรวจสอบว่าแอปใดทำให้เครื่องช้า
ลองใช้วิธีง่ายๆ ต่อไปนี้เพื่อ “จับตัวการ” ที่ทำให้เครื่องหน่วง:
- สังเกตอาการ: เครื่องร้อน แบตลดเร็ว เปิดแอปช้า หรือค้างบ่อย
- ตรวจสอบสถิติการใช้แบตเตอรี่ ว่าแอปไหนใช้สูงผิดปกติ
- ตรวจสอบการใช้หน่วยความจำ/การทำงานเบื้องหลัง (ขึ้นกับรุ่นและยี่ห้อ)
วิธีปิดแอปที่ทำให้เครื่องช้า (Android)
วิธีที่ 1: ปิดแอปจากหน้าจอแอปล่าสุด (Recent Apps)
- แตะปุ่ม Recent Apps (หรือปัดขึ้นแล้วค้าง ขึ้นกับรุ่น)
- ปัดแอปที่ไม่ใช้ออก
- เหมาะสำหรับปิดแอปชั่วคราว ลดความหน่วงแบบเร็วๆ
วิธีที่ 2: บังคับหยุดแอป (Force Stop)
- ไปที่ การตั้งค่า > แอป
- เลือกแอปที่สงสัยว่าเป็นสาเหตุ
- แตะ บังคับหยุด
ทริก: ใช้กับแอปที่ค้างหรือทำงานผิดปกติเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องทำกับทุกแอป
วิธีที่ 3: จำกัดการทำงานเบื้องหลัง
- ไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ (หรือ การดูแลอุปกรณ์ ในบางยี่ห้อ)
- เข้าเมนู การใช้แบต หรือ การจัดการแบตเตอรี่ของแอป
- เลือกแอป แล้วตั้งค่าเป็น จำกัด (Restrict background usage)
วิธีที่ 4: ถอนการติดตั้งแอปที่ไม่จำเป็น
- แอปที่ไม่เคยใช้ แต่ทำงานเบื้องหลัง
- เกมหรือแอปทดลองที่ลืมลบ
- แอปที่มีโฆษณาหนัก หรือแจ้งเตือนถี่เกินไป
วิธีปิดแอปที่ทำให้เครื่องช้า (iPhone)
วิธีที่ 1: ปิดแอปจาก App Switcher
- iPhone รุ่น Face ID: ปัดขึ้นจากด้านล่างแล้วค้างเล็กน้อย
- iPhone รุ่นมีปุ่ม Home: กดปุ่ม Home สองครั้ง
- ปัดแอปขึ้นเพื่อปิด
วิธีที่ 2: ปิดการรีเฟรชแอปเบื้องหลัง (Background App Refresh)
- ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > รีเฟรชแอปเบื้องหลัง
- ปิดทั้งระบบ หรือเลือกปิดเฉพาะบางแอป
เหมาะมาก หากเครื่องหน่วง/แบตหมดไวจากแอปโซเชียลหรือแอปช้อปปิ้ง
วิธีที่ 3: ตรวจสอบการใช้แบตเตอรี่
- ไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่
- ดูว่าแอปใดใช้แบตสูงผิดปกติ (ทั้ง “บนหน้าจอ” และ “เบื้องหลัง”)
- พิจารณาปิดสิทธิ์บางอย่าง หรือเลิกใช้/ลบแอปนั้น
แอปประเภทใดที่มักทำให้เครื่องช้า
- แอปโซเชียลมีเดีย (อัปเดตฟีด/ซิงก์บ่อย)
- แอปแชต (แจ้งเตือนและทำงานตลอดเวลา)
- แอปนำทาง/ติดตามตำแหน่ง
- เกมบางประเภทที่มีบริการเบื้องหลัง
- แอปที่มีโฆษณาหนัก หรือทำงานร่วมกับหลายบริการ
เคล็ดลับเพิ่มเติมให้เครื่องลื่นขึ้น
- รีสตาร์ทเครื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- Android: ล้างแคชแอปที่ใช้บ่อย (ถ้ารุ่นรองรับ)
- ลดวิดเจ็ต/เอฟเฟกต์ที่ไม่จำเป็น
- อย่าปล่อยพื้นที่เก็บข้อมูลเต็ม แนะนำให้เหลืออย่างน้อย 15–20%
ข้อควรระวัง
- อย่าบังคับหยุดแอประบบสำคัญ (เช่น ระบบโทร/ข้อความ/บริการของระบบ)
- หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอป “เร่งเครื่อง” จากแหล่งไม่น่าเชื่อถือ
- หากต้องใช้แอปแชตทำงาน ควรเน้น “จำกัดเฉพาะแอปที่ไม่จำเป็น” มากกว่าปิดทุกอย่าง


Social Plugin