Wi-Fi หลุดบ่อย เพราะอะไร และแก้อย่างไรดี
1) อุปกรณ์เก่า หรือเราเตอร์เริ่มล้า
เราเตอร์เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง ใช้ไปนาน ๆ มันเริ่มอ่อนแรงลง ความร้อนสะสม ทำให้สัญญาณไม่เสถียร ถ้าเปิดใช้งานมาเกิน 3–5 ปี โอกาสที่มันจะเริ่มงอแงมีสูงมาก
วิธีแก้แบบง่าย ๆ
- ปิด–เปิดเราเตอร์ใหม่ ทิ้งไว้ประมาณ 10–15 วินาทีแล้วค่อยเปิด
- ทำความสะอาดช่องระบายอากาศ อย่าให้ฝุ่นอุด
- ถ้าใช้นานเกิน 5 ปี แนะนำเปลี่ยนตัวใหม่ จะเห็นผลชัดมาก
2) ตำแหน่งวางเราเตอร์ผิดที่
หลายบ้านวางเราเตอร์ในตู้ ใต้โต๊ะ หลังทีวี หรือชิดผนังมากเกินไป ทำให้สัญญาณกระจายไม่ดี และหลุดง่าย โดยเฉพาะถ้าอยู่หลายชั้น สัญญาณจะไปไม่ถึงมุมห้องหรือชั้นบน ๆ
ตำแหน่งที่ควรวางคือ
- วางให้ใกล้กลางบ้านมากที่สุด
- วางสูงกว่าระดับโต๊ะ เช่น บนชั้นวาง หรือผนังที่โล่ง
- หลีกเลี่ยงการวางใกล้ไมโครเวฟ ตู้เย็น ลำโพง หรือผนังปูนหนา
3) สัญญาณจากเพื่อนบ้าน “ชน” กัน
ตามคอนโดหรือหมู่บ้านที่มี Wi-Fi เยอะ ๆ สัญญาณอาจชนกันจนเน็ตช้าและหลุด โดยเฉพาะคลื่น 2.4GHz ที่ระยะไกลดีแต่มีคนใช้แน่น
วิธีแก้แบบไม่ต้องใช้ศัพท์ไอที
- ลองสลับไปใช้คลื่น 5GHz จะเร็วกว่าและไม่ชนกันมาก
- ถ้าเราเตอร์รองรับ ให้เปิดโหมด Auto หรือ Smart Connect ให้มันจัดการให้เอง
4) อุปกรณ์ต่อพร้อมกันเยอะเกินไป
มือถือ ทีวี คอมพิวเตอร์ กล้องวงจรปิด เครื่องฟอกอากาศ สมาร์ตโฮม ฯลฯ ถ้าต่อพร้อมกันหลายเครื่อง เราเตอร์บางรุ่นอาจรับไม่ไหว ทำให้หลุดเป็นช่วง ๆ
วิธีแก้
- ลบหรือถอดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งานออกจาก Wi-Fi
- เปลี่ยนรหัส Wi-Fi ใหม่ แล้วให้เชื่อมต่อเฉพาะเครื่องที่จำเป็นจริง ๆ
- ถ้ามี 20 เครื่องขึ้นไป แนะนำอัปเกรดเราเตอร์หรือเพิ่ม Access Point
5) แรงดันไฟบ้านไม่นิ่ง
หากไฟกระตุก ไฟตก หรือไฟดับบ่อย ๆ เราเตอร์อาจรีสตาร์ตเองจนทำให้รู้สึกว่า Wi-Fi หลุดบ่อย ทั้งที่จริง ๆ เป็นเรื่องไฟฟ้า
วิธีแก้
- ใช้ปลั๊กพ่วงคุณภาพดี มีระบบกันไฟกระชาก
- สำหรับออฟฟิศหรือร้านค้า ใช้ UPS ขนาดเล็กสำรองไฟให้เราเตอร์และอุปกรณ์เน็ต
6) เครือข่ายผู้ให้บริการมีปัญหา
บางครั้งปัญหาไม่ได้มาจากบ้านเราเลย แต่เป็นที่โครงข่ายของผู้ให้บริการ อินเทอร์เน็ตล่ม หรือสายไฟเบอร์ด้านนอกเสีย
วิธีเช็กแบบง่าย ๆ
- ลองเปิดอินเทอร์เน็ตจากมือถือ แล้วเช็กโซเชียลว่ามีคนบ่นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่
- ถ้าไฟ LOS บนเราเตอร์ขึ้นสีแดงหรือกระพริบ แปลว่าสัญญาณจากข้างนอกมีปัญหา ต้องติดต่อช่าง
7) สายสัญญาณชำรุดหรือหลวม
สาย LAN หรือสายที่ต่อจากกล่องไฟเบอร์เข้ามาในบ้าน ถ้าหัก งอ หลวม หรือโดนหนูกัด ก็อาจทำให้เน็ตหลุดเป็นช่วง ๆ
วิธีแก้
- ตรวจสายด้านนอกและด้านหลังเราเตอร์ว่ามีรอยหัก งอ หรือหลวมหรือไม่
- เปลี่ยนสาย LAN เป็นรุ่นคุณภาพดี เช่น Cat6 ขึ้นไป
- ถ้าสายไฟเบอร์ขาดหรือเสีย ต้องให้ช่างจากผู้ให้บริการมาเปลี่ยนเท่านั้น
8) บ้านหลังใหญ่หรือหลายชั้น สัญญาณไปไม่ถึง
ถ้าบ้านมีหลายชั้น หรือพื้นที่กว้าง การใช้เราเตอร์ตัวเดียวมักทำให้เกิด “จุดอับสัญญาณ” บางจุดเน็ตช้า บางจุดเน็ตหลุด
วิธีแก้แบบง่าย ๆ
- ใช้ระบบ Mesh Wi-Fi กระจายสัญญาณให้ครอบคลุมทั้งบ้าน
- ติดตั้ง Repeater หรือ Access Point เพิ่มในโซนอับสัญญาณ
- หลีกเลี่ยง Repeater ราคาถูกมาก ๆ เพราะมักทำให้เน็ตไม่เสถียร
9) อุปกรณ์ที่ใช้มีปัญหาเอง
บางทีไม่ใช่ Wi-Fi เสีย แต่เป็นมือถือหรือคอมเราเองที่รวน เช่น ระบบค้าง สัญญาณค้าง หรือมีบั๊กจากแอปบางตัว
ลองทำสิ่งเหล่านี้ก่อน
- ปิด–เปิด Wi-Fi ที่เครื่องแล้วลองเชื่อมต่อใหม่
- กด “ลืมเครือข่าย (Forget Network)” แล้วใส่รหัสเชื่อมต่อใหม่
- รีสตาร์ตมือถือหรือคอมพิวเตอร์
- อัปเดตระบบและแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
ถ้าเครื่องอื่นใช้ได้ปกติ แปลว่าปัญหาอยู่ที่ตัวอุปกรณ์ของเราเอง ไม่ใช่ที่ Wi-Fi
10) ห้องมีของใช้รบกวนสัญญาณ
สิ่งของบางอย่างในห้องสามารถขวางหรือรบกวนสัญญาณได้มากกว่าที่คิด เช่น ผนังปูนหนา กระจกหลายชั้น ตู้เหล็ก ไมโครเวฟ หรืออุปกรณ์ไร้สายบางชนิด
คำแนะนำ
- พยายามไม่ให้สัญญาณต้องเดินผ่านผนังหลายชั้นเกินไป
- อย่าวางเราเตอร์ใกล้ไมโครเวฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังสูง
- จัดตำแหน่งให้เราเตอร์อยู่โล่งที่สุดเท่าที่ทำได้
11) ใช้รหัสผ่านร่วมกันเยอะเกินไป
ถ้าให้รหัส Wi-Fi กับเพื่อน บ้านข้าง ๆ หรือแขกเป็นประจำ จำนวนเครื่องที่เชื่อมต่ออาจเยอะเกิน จนเน็ตหลุดและช้าได้
วิธีแก้ง่ายที่สุด
- เปลี่ยนรหัส Wi-Fi ใหม่เป็นระยะ
- ตั้ง Guest Wi-Fi แยกสำหรับเพื่อนหรือแขกที่มาบ้าน
12) การตั้งค่าบางอย่างทำให้หลุด
บางครั้งเราไปลองปรับค่าต่าง ๆ ในเราเตอร์เอง เช่น โหมดประหยัดพลังงาน ลดความแรงสัญญาณ หรือเปิดฟังก์ชันที่ไม่เข้าใจ ทำให้เน็ตไม่เสถียร
ถ้าไม่ถนัดตั้งค่า ทำแบบนี้
- รีเซ็ตเราเตอร์กลับค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
- ตั้งชื่อ Wi-Fi และรหัสใหม่แบบง่าย ๆ ที่จำได้
- ใช้แอปของแบรนด์เราเตอร์ (ถ้ามี) เพราะออกแบบมาให้ใช้งานง่าย
13) ใช้อุปกรณ์คนละรุ่น คนละยุค
มือถือรุ่นเก่ากับเราเตอร์รุ่นใหม่ หรืออุปกรณ์ IoT ราคาถูกบางตัว อาจเข้ากันไม่ดี ทำให้เน็ตหลุด ๆ ติด ๆ
แนวทางจัดการ
- แยกสัญญาณ 2.4GHz สำหรับอุปกรณ์เก่า
- ใช้ 5GHz สำหรับมือถือและคอมพิวเตอร์ที่รองรับ
- ถ้าพบว่าอุปกรณ์ IoT ตัวไหนทำให้เน็ตล่มบ่อย อาจต้องเปลี่ยนหรือถอดออก
14) ปัญหาในออฟฟิศหรือโรงแรม
ถ้าเป็นออฟฟิศหรือโรงแรม ผู้ใช้งานเยอะ ปัญหาก็เยอะตาม เช่น Access Point วางชิดกันเกินไป ผู้ใช้ต่อพร้อมกันหลักร้อย หรือใช้เครื่องเก่า
วิธีแก้แบบไม่ต้องลงลึกเทคนิค
- กระจายตำแหน่ง Access Point ให้คลุมพื้นที่โดยไม่ซ้อนกันมากเกินไป
- แบ่งโซนการใช้งาน เช่น Office, Guest, Staff
- อัปเกรดอุปกรณ์ให้รองรับผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้น
15) แพ็กเกจเน็ตบ้านต่ำเกินไป
ถ้าที่บ้านมีหลายคนดูหนังออนไลน์ ประชุม วิดีโอคอล เล่นเกมไปพร้อมกัน แต่ใช้แพ็กเกจเน็ตความเร็วต่ำ ก็มีโอกาสที่เน็ตจะอืดและหลุด
คำแนะนำเบื้องต้น
- ครอบครัว 3–5 คน แนะนำอย่างน้อย 300/300 Mbps หรือมากกว่า
- ถ้าใช้งานหนัก เช่น เล่นเกมออนไลน์หลายเครื่อง หรือทำงานแบบ Work from Home หลายคน แนะนำ 500/500 หรือ 1Gbps
16) ทริคง่าย ๆ ให้ Wi-Fi เสถียรขึ้นทันที
- ปิด–เปิดเราเตอร์ทุก 2–3 วัน
- วางเราเตอร์ในตำแหน่งที่โล่งและอยู่กึ่งกลางบ้าน
- แยกสัญญาณ 2.4GHz และ 5GHz ให้เหมาะกับอุปกรณ์
- ตั้ง Guest Wi-Fi สำหรับแขก ไม่ใช้รหัสเดียวกับสมาชิกในบ้าน
- หลีกเลี่ยงการใช้ตัวขยายสัญญาณราคาถูกเกินไป
- ถ้ามีงบ แนะนำอัปเกรดเป็นเราเตอร์หรือระบบ Wi-Fi 6
17) ถ้าทำทุกอย่างแล้ว ยังหลุดอยู่?
ถ้าลองแก้ตามขั้นตอนทั้งหมดแล้วแต่ Wi-Fi ยังหลุดบ่อย แนะนำให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตโดยตรง พร้อมเตรียมข้อมูลให้ช่าง เช่น
- หลุดบ่อยแค่ไหน ทุกกี่นาทีหรือช่วงเวลาใด
- หลุดเฉพาะตอนใช้งานหนัก หรือตลอดเวลา
- ไฟสถานะบนเราเตอร์ขึ้นสีอะไรบ้าง
เมื่อให้ข้อมูลครบ ช่างจะช่วยวิเคราะห์และแก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้นมาก ส่วนใหญ่ถ้าเป็นปัญหาจากฝั่งผู้ให้บริการ แก้ไขไม่ยาก และมักใช้เวลาไม่นาน


Social Plugin