วิธีแก้ “เปิดไฟล์ไม่ได้”

can't open file

เวลาเราจะเปิดไฟล์งานสำคัญๆ แล้วเจอข้อความว่า “ไม่สามารถเปิดไฟล์ได้” หรือไฟล์ไม่ตอบสนอง นี่เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้หลายคนหัวเสียที่สุด 

เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากไฟล์ Word, Excel, รูปภาพ, วิดีโอ หรือแม้แต่ไฟล์ PDF ที่ปกติเปิดง่ายมากอยู่แล้ว ความจริงคือปัญหาเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งตัวไฟล์เองมีปัญหา โปรแกรมที่ใช้เปิดไม่รองรับ ไฟล์ถูกย้ายตำแหน่ง อินเทอร์เน็ตหลุด หรือแม้แต่ถูกไวรัสเล่นงานแบบไม่รู้ตัวก็ยังมี แต่ข่าวดีคือ วิธีแก้มีหลายแบบ และส่วนใหญ่ทำตามได้ง่ายๆ ไม่ต้องเป็นคนเก่งคอมก็ทำได้สบาย 

บทความนี้จะชวนมาคุยแบบเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟัง ว่าเวลาเจอไฟล์เปิดไม่ได้ ควรลองแก้ทีละขั้นตอนอย่างไรถึงจะใช้งานได้เหมือนเดิม ช่วยลดความเครียดและประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยครับ

วิธีแก้เปิดไฟล์ไม่ได้ ทีละข้อแบบเพื่อนสอนเพื่อน

ปัญหา “เปิดไฟล์ไม่ได้” เป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ ใครใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นประจำย่อมต้องเจออย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซึ่งสาเหตุจริงๆ อาจมาจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงปัญหาหนัก แต่ไม่ต้องกังวลครับ ลองแก้ตามนี้ทีละข้อ บอกเลยว่าโอกาสกลับมาเปิดได้มีสูงมาก

1. ลองเปิดด้วยโปรแกรมอื่นดูก่อน

หลายคนติดนิสัยว่าไฟล์ Word ต้องเปิดด้วย Word ไฟล์ PDF ต้องเปิดด้วย Adobe แต่ความจริงมีหลายโปรแกรมที่เปิดแทนกันได้ และช่วยเช็กได้ด้วยว่าเป็นที่ไฟล์ หรือเป็นที่โปรแกรมกันแน่

  • ไฟล์ Word – ลองเปิดผ่าน Google Docs
  • ไฟล์ Excel – ลองอัปโหลดเข้า Google Sheets
  • ไฟล์ PDF – ลองเปิดผ่านเบราว์เซอร์อย่าง Chrome หรือ Edge
  • ไฟล์รูปภาพ – ลองเปิดด้วยโปรแกรมดูรูปตัวอื่น หรือเปิดบนมือถือ
  • ไฟล์วิดีโอ – ลองใช้โปรแกรมอย่าง VLC หรือเปิดบนมือถือแทน

ถ้าเปิดด้วยโปรแกรมอื่นได้ แปลว่าไฟล์ยังดีอยู่ แค่โปรแกรมหลักงอแงเท่านั้นเองครับ

2. รีสตาร์ทเครื่องก่อน แล้วค่อยลองใหม่

ฟังดูพื้นๆ แต่ช่วยได้บ่อยมาก เพราะบางทีเครื่องทำงานค้างอยู่เบื้องหลัง โปรแกรมเปิดไม่ขึ้นหรือเปิดแล้วค้าง การรีสตาร์ทช่วยเคลียร์ระบบใหม่ แล้วลองเปิดไฟล์อีกครั้ง หลายเคสหายแบบไม่น่าเชื่อเลยครับ

3. เช็กว่าไฟล์ยังเปิดอยู่ในอีกหน้าต่างหรืออีกเครื่องหรือเปล่า

บางครั้งไฟล์เปิดไม่ได้เพราะถูกใช้งานอยู่แล้ว เช่น:

  • เราเปิดไฟล์ Word หรือ Excel ไว้อยู่แล้ว แล้วดับเบิลคลิกซ้ำ
  • ไฟล์อยู่ในโฟลเดอร์แชร์ และมีคนอื่นเปิดใช้งานอยู่
  • ไฟล์อยู่บนระบบคลาวด์ เช่น Google Drive หรือ OneDrive และถูกล็อกอยู่

วิธีแก้ง่ายๆ คือ ปิดโปรแกรมทั้งหมดก่อน แล้วลองเปิดใหม่ หรือคัดลอกไฟล์ออกมาไว้บน Desktop แล้วเปิดจากไฟล์ที่ก็อปปี้มาครับ

4. ตรวจสอบชื่อไฟล์และนามสกุลไฟล์

บางครั้งเปิดไฟล์ไม่ได้เพราะเรื่องเล็กๆ เช่น ชื่อไฟล์ยาวเกินไป หรือตั้งชื่อแปลกๆ หรือมีการเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ผิดประเภทโดยไม่ตั้งใจ เช่น จาก .docx กลายเป็น .docx.pdf ทำให้โปรแกรมสับสน

ลองทำตามนี้:

  • เปลี่ยนชื่อไฟล์ให้สั้นลง
  • หลีกเลี่ยงสัญลักษณ์พิเศษในชื่อไฟล์ เช่น / \ * ? < > |
  • ตรวจสอบว่านามสกุลไฟล์ตรงกับประเภทไฟล์จริงๆ

5. ดาวน์โหลดไฟล์มาไว้ในเครื่องก่อนค่อยเปิด

ถ้าไฟล์มาจากอีเมล ไลน์ หรือคลาวด์ เช่น Google Drive หรือ OneDrive แล้วเราเปิดตรงจากลิงก์ บางทีอินเทอร์เน็ตช้าหรือไฟล์โหลดไม่ครบ ทำให้เปิดไม่ได้หรือเปิดแล้วค้าง

แนะนำให้กดดาวน์โหลดมาไว้ในเครื่องก่อน แล้วค่อยดับเบิลคลิกเปิดจากไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ Download หรือ Desktop จะเสถียรกว่ามากครับ

6. ไฟล์ดาวน์โหลดมาไม่ครบ ทำให้เปิดไม่ได้

ถ้าไฟล์มาจากเว็บไซต์ดาวน์โหลด หรือแนบมากับอีเมล แล้วไฟล์ใหญ่ เช่น วิดีโอหรือไฟล์บีบอัดขนาดหลายร้อยเมกะไบต์ บางครั้งไฟล์โหลดมาไม่ครบ 100% เปิดยังไงก็ไม่ขึ้น

ลองแก้แบบนี้:

  • ดาวน์โหลดไฟล์ใหม่อีกครั้ง
  • เปลี่ยนเบราว์เซอร์ เช่น จาก Chrome เป็น Edge หรือ Firefox
  • เช็กสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้เสถียร ก่อนดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่
  • ถ้าเป็นไปได้ ลองดาวน์โหลดจากอีกเครื่อง หรือมือถือแล้วค่อยโอนไฟล์มา

7. โปรแกรมที่ใช้เปิดเวอร์ชันเกินจะเก่าไปหน่อย

โปรแกรมบางตัวถ้าเวอร์ชันเก่ามาก จะเปิดไฟล์เวอร์ชันใหม่ไม่ค่อยได้ เช่น Word รุ่นเก่ากับไฟล์ .docx หรือโปรแกรมดูรูปที่ไม่รองรับไฟล์ HEIC จาก iPhone

วิธีแก้คือ อัปเดตโปรแกรมให้เป็นเวอร์ชันใหม่ หรือใช้บริการออนไลน์อย่าง Google Docs, Google Sheets หรือโปรแกรมดูไฟล์บนเว็บ ซึ่งมักรองรับไฟล์รุ่นใหม่ได้ดีกว่า

8. ลองเอาไฟล์ไปเปิดบนอุปกรณ์อื่น

อีกวิธีที่ช่วยเช็กได้เร็วว่าไฟล์เสียหรือไม่ คือเอาไปเปิดบนอุปกรณ์อื่น เช่น:

  • คอมเปิดไม่ได้ ลองส่งไฟล์ไปเปิดบนมือถือ
  • มือถือเปิดไม่ได้ ส่งไฟล์เข้าอีเมลแล้วลองเปิดบนคอม
  • ส่งไฟล์ให้เพื่อนลองเปิด ถ้าเพื่อนเปิดได้ แสดงว่าเป็นที่เครื่องเรา

9. ตรวจสอบพื้นที่ว่างในเครื่อง

ถ้าพื้นที่ฮาร์ดดิสก์หรือหน่วยความจำใกล้เต็ม โปรแกรมบางตัวจะเริ่มทำงานแปลกๆ รวมถึงเปิดไฟล์ไม่ได้ หรือค้างง่ายกว่าปกติ

ลองเคลียร์เครื่องแบบง่ายๆ:

  • ลบไฟล์ที่ไม่ใช้แล้ว เช่น รูปซ้ำ ไฟล์เก่าๆ ในโฟลเดอร์ Download
  • ล้างถังขยะ (Recycle Bin)
  • ย้ายไฟล์ใหญ่ไปเก็บบน External HDD หรือ Cloud
  • รีสตาร์ทเครื่องหลังจากลบไฟล์จำนวนมาก

10. ไฟล์อาจโดนไวรัสหรือมัลแวร์เล่นงาน

ถ้าเริ่มสังเกตเห็นว่าไฟล์บางประเภทเปิดไม่ได้ นามสกุลไฟล์เปลี่ยนเอง มีไฟล์แปลกๆ เพิ่มขึ้นมา หรือเปิดไฟล์แล้วเครื่องค้างบ่อย มีโอกาสว่าเครื่องอาจโดนไวรัสหรือมัลแวร์

แนวทางเบื้องต้น:

  • สแกนไวรัสทั้งเครื่องด้วยโปรแกรมที่มีอยู่
  • ถ้าเป็นไฟล์สำคัญ ลองคัดลอกไปยังเครื่องที่ปลอดภัยก่อน
  • ลองอัปโหลดไฟล์ขึ้น Google Drive แล้วเปิดด้วย Google Docs หรือ Preview

11. กรณีไฟล์อยู่ใน ZIP หรือ RAR แล้วแตกไฟล์ไม่ครบ

ถ้าไฟล์อยู่ใน .zip หรือ .rar แล้วเราแตกไฟล์ออกมา แต่ไฟล์ข้างในเปิดไม่ได้ อาจเป็นเพราะไฟล์บีบอัดนั้นเสีย หรือแตกไฟล์ไม่ครบ

วิธีรับมือ:

  • ลองดาวน์โหลดไฟล์ ZIP หรือ RAR นั้นใหม่
  • เปลี่ยนโปรแกรมแตกไฟล์ เช่น ใช้ 7-Zip หรือโปรแกรมอื่น
  • ถ้าแตกไฟล์บนมือถือแล้วมีปัญหา ลองแตกไฟล์บนคอมแทน

12. ใช้โหมด “ตัวอย่างไฟล์” ช่วยเช็กสภาพไฟล์

สำหรับไฟล์เอกสาร เช่น Word, Excel หรือ PDF บางครั้งตัวโปรแกรมหลักเปิดแล้วค้าง แต่ระบบแสดงตัวอย่างได้ เช่นในอีเมลหรือในคลาวด์

ถ้าเรายังเห็นตัวอย่างเนื้อหาได้ แสดงว่าไฟล์ยังไม่เสียทั้งหมด อย่างน้อยเรายังสามารถก๊อปปี้ข้อมูลออกมาบางส่วนได้ครับ

13. ไฟล์ใหญ่มากจนเครื่องรับไม่ไหว

ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก เช่น วิดีโอ 4K, รูปภาพความละเอียดสูงมาก หรือ PDF หลายร้อยหน้า บางเครื่องอาจเปิดลำบากเพราะสเปกไม่พอ

ทางออก:

  • ย้ายไฟล์ไปเปิดในเครื่องที่สเปกสูงกว่า
  • อัปโหลดไฟล์ขึ้น Google Drive หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ แล้วเปิดผ่านเว็บ
  • ลดขนาดไฟล์ก่อน เช่น บีบอัดวิดีโอ หรือลดขนาดภาพ

14. ไฟล์จาก Mac เอามาเปิดบน Windows (หรือกลับกัน)

ไฟล์บางประเภทจาก Mac เช่น Pages, Numbers, Keynote เอามาเปิดบน Windows ตรงๆ มักจะไม่ได้ ต้องแปลงไฟล์ก่อน

วิธีง่ายๆ เช่น:

  • ให้คนที่ใช้ Mac เซฟออกมาเป็น PDF หรือ Word ให้
  • เปิดไฟล์ผ่าน iCloud.com
  • ใช้เว็บไซต์แปลงไฟล์ออนไลน์ช่วยแปลงเป็นไฟล์ที่เปิดบน Windows ได้

15. ใช้เว็บแปลงไฟล์ช่วย เปิดไม่ได้ก็แปลงก่อน

ถ้าเครื่องเราไม่มีโปรแกรมรองรับไฟล์แปลกๆ เช่น HEIC, MOV, หรือไฟล์บางประเภทจากกล้องถ่ายรูป สามารถใช้เว็บแปลงไฟล์ช่วยได้

ตัวอย่างที่คนใช้กันบ่อย:

  • แปลง PDF เป็น Word หรือ JPG
  • แปลง HEIC เป็น JPG
  • แปลง MOV เป็น MP4

วิธีนี้ช่วยให้เรายังเข้าถึงข้อมูลในไฟล์ได้ แม้ไม่มีโปรแกรมหลักติดตั้งอยู่ในเครื่อง

16. คัดลอกไฟล์ไปเก็บที่โฟลเดอร์อื่นแล้วลองใหม่

บางโฟลเดอร์อาจติดสิทธิ์ หรือเป็นโฟลเดอร์ระบบทำให้เปิดไฟล์ได้ลำบาก แนะนำให้ลองคัดลอกไฟล์ไปไว้ที่ Desktop หรือ Documents แล้วลองเปิดจากตรงนั้นแทน

17. ระวังไฟล์ที่อยู่ใน USB หรือ External HDD ที่เริ่มมีปัญหา

ถ้าสังเกตว่า USB หรือ External HDD เริ่มอ่านช้าผิดปกติ มีเสียงดัง หรือบางครั้งมองไม่เห็นไดรฟ์ ไฟล์ในนั้นอาจเปิดไม่ได้เป็นช่วงๆ

ถ้าไฟล์สำคัญมาก ให้รีบคัดลอกไฟล์นั้นไปเก็บบนเครื่องหรือคลาวด์ทันที อย่ารอจนไดรฟ์พังแล้วค่อยหาวิธีดึงข้อมูล เพราะจะยากและแพงขึ้นเยอะครับ

18. ใช้โหมดปลอดภัยของบางโปรแกรม

สำหรับโปรแกรมอย่าง Word หรือ Excel บางครั้งส่วนเสริมหรือ Add-in ทำให้เปิดไฟล์ไม่ได้ ลองเปิดโปรแกรมในโหมดปลอดภัย (Safe Mode) แล้วเปิดไฟล์อีกครั้ง เพื่อดูว่าเป็นที่ส่วนเสริมหรือไม่

19. ขอไฟล์ต้นฉบับจากผู้ส่งใหม่

ถ้าลองมาหลายวิธีแล้วไฟล์ก็ยังเปิดไม่ได้ มีโอกาสว่าไฟล์เสียตั้งแต่ต้นทางแล้ว วิธีที่ง่ายที่สุดคือแจ้งผู้ส่งให้ส่งไฟล์ใหม่อีกครั้ง หรือขอในรูปแบบอื่น เช่น ขอเป็น PDF แทนไฟล์งาน เพื่อให้เราเปิดดูข้อมูลได้ก่อน

20. สำรองไฟล์สำคัญไว้หลายๆ ที่

แม้จะไม่ใช่วิธีแก้ แต่เป็นวิธีป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด ควรสำรองไฟล์สำคัญไว้มากกว่าหนึ่งที่ เช่น เก็บในคอม เก็บในคลาวด์ และเก็บใน External HDD อีกชุด เวลาไฟล์หนึ่งเปิดไม่ได้ เรายังมีสำรองให้ดึงมาใช้ต่อได้สบายใจครับ