การมีเว็บไซต์ WordPress ไม่ใช่แค่การโพสต์บทความหรือขายสินค้า แต่สิ่งสำคัญมากคือการ “ปกป้องข้อมูลเว็บไซต์” ของเราให้ปลอดภัยอยู่เสมอ
เพราะข้อมูลบนเว็บอาจเสียหายได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอัปเดตปลั๊กอินผิดพลาด เว็บโดนแฮ็ก ระบบโฮสล่ม หรือคนใช้งานเผลอลบข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้น การสำรองข้อมูลหรือแบ็กอัพจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของเว็บไซต์ทุกคนต้องมี โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านไอทีมากนัก ก็ยิ่งต้องใช้เครื่องมือที่ง่ายและเชื่อถือได้ ปลั๊กอิน UpdraftPlus*จึงเป็นตัวช่วยอันดับต้น ๆ ที่เหมาะที่สุด เพราะใช้งานง่ายมาก สำรองข้อมูลอัตโนมัติได้ และกู้เว็บกลับมาได้เพียงไม่กี่คลิก ทำให้เว็บไซต์ปลอดภัย พร้อมใช้งานเสมอ
UpdraftPlus คืออะไร
UpdraftPlus คือปลั๊กอินสำหรับ WordPress ที่ช่วยสำรองข้อมูล (Backup) และกู้ข้อมูล (Restore) ของเว็บไซต์ได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิคมาก ใช้งานง่ายเพียงคลิกไม่กี่ครั้ง เป็นปลั๊กอินที่มีผู้ใช้มากที่สุดกว่า 3 ล้านเว็บไซต์ทั่วโลก เพราะเสถียร ปลอดภัย และรองรับการเก็บข้อมูลไปยังระบบ Cloud เช่น Google Drive, Dropbox, OneDrive, Amazon S3 และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทำไมเว็บไซต์ WordPress ต้องมี UpdraftPlus
การมี UpdraftPlus ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญหายของข้อมูล โดยเหตุผลที่ควรติดตั้งมีดังนี้
1 ป้องกันข้อมูลหาย
ข้อมูลหายอาจเกิดจาก
- การอัปเดตปลั๊กอินหรือธีมผิดพลาด
- เว็บโดนแฮ็กหรือมัลแวร์
- โฮสติ้งมีปัญหา
- ผู้ใช้งานมือใหม่เผลอลบไฟล์ผิด
UpdraftPlus ช่วยเก็บสำรองข้อมูลไว้ ทำให้สามารถกู้คืนได้ทันที
2. ใช้งานง่ายมาก
- แม้ไม่มีพื้นฐานไอที ก็สามารถกด Backup และ Restore ได้ภายในคลิกเดียว
- มีเมนูภาษาไทย เข้าใจง่าย และการตั้งค่าไม่ซับซ้อน
3. ตั้งเวลาแบ็กอัพอัตโนมัติ
สามารถเลือกให้ระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติ เช่น
- ทุกวัน
- ทุกสัปดาห์
- ทุกเดือน
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากลืมหรือไม่สะดวกทำด้วยตนเอง
4. เก็บไฟล์ไว้บน Cloud
ข้อดีใหญ่คือสามารถเก็บไฟล์สำรองไว้บนพื้นที่ Cloud ทำให้ปลอดภัยกว่าการเก็บบนโฮส เพราะถ้าโฮสล่ม ไฟล์บน Cloud ยังใช้งานได้
UpdraftPlus สำรองอะไรบ้าง
UpdraftPlus แบ่งข้อมูลในการสำรองออกเป็นหลายแบบ เพื่อให้เลือกกู้เฉพาะส่วนที่ต้องการได้
- Database เช่น บทความ ข้อมูลผู้ใช้ คอมเมนต์
- Plugins รายการปลั๊กอินทั้งหมดที่ติดตั้ง
- Themes ธีมที่กำลังใช้งาน
- Upload ไฟล์รูปภาพ วิดีโอ เอกสารที่อัปโหลด
- Other directories โฟลเดอร์อื่น ๆ ใน WordPress
การแยกแบบนี้ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ และกู้คืนเฉพาะส่วนที่เสียหายได้
วิธีติดตั้ง UpdraftPlus
การติดตั้งง่ายมาก ทำได้ดังนี้:
- เข้าหลังบ้าน WordPress
- ไปที่เมนู ปลั๊กอิน > เพิ่มปลั๊กอินใหม่
- พิมพ์คำว่า UpdraftPlus
- กด ติดตั้ง*และ เปิดใช้งาน
- จะมีเมนูชื่อ UpdraftPlus Backup/Restore*ปรากฏใน “ตั้งค่า”
เพียงเท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว
วิธีสำรองข้อมูล (Backup)
เมื่อเปิดเมนู UpdraftPlus แล้วทำตามนี้:
- คลิกปุ่ม Backup Now
- เลือกว่าจะสำรอง Database และไฟล์อะไรบ้าง
- กด Backup Now
- รอระบบทำงานจนเสร็จ
ไฟล์สำรองจะถูกบันทึกไว้ในเซิร์ฟเวอร์หรือ Cloud ตามที่ตั้งค่าไว้
ตั้งค่าให้สำรองอัตโนมัติ
สิ่งสำคัญคือการเปิดระบบแบ็กอัพอัตโนมัติ เพื่อให้เว็บไซต์ปลอดภัยตลอดเวลา
ตั้งค่าดังนี้:
- เลือกช่วงเวลาสำรอง Database เช่น ทุกวัน
- เลือกช่วงเวลาสำรองไฟล์ เช่น ทุกสัปดาห์
- ตั้งจำนวนเวอร์ชันที่จะเก็บ เช่น 5 ชุด
ระบบจะทำงานเองโดยไม่ต้องกดอะไรอีกเลย
เชื่อมต่อ Cloud Storage
UpdraftPlus รองรับ Cloud หลายตัว เช่น:
- Google Drive
- Dropbox
- OneDrive
- Amazon S3
- Backblaze B2
วิธีเชื่อมต่อ Google Drive (ตัวอย่าง)
- ไปที่ Settings ของ UpdraftPlus
- เลือก “Google Drive”
- ล็อกอินบัญชี Google
- อนุญาตสิทธิ์การเข้าถึง
- บันทึกการตั้งค่า
ไฟล์สำรองจะถูกเก็บบน Google Drive เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
วิธีกู้คืนเว็บไซต์ (Restore)
ถ้าเว็บมีปัญหา เช่น หน้าขาว โหลดไม่ได้ ปลั๊กอินพัง ให้ทำดังนี้
- ไปที่เมนู Existing Backups
- เลือกชุดแบ็กอัพที่ต้องการ
- คลิก Restore
- เลือกไฟล์ที่ต้องการกู้ เช่น Database, Uploads
- กดยืนยัน
ภายในไม่กี่นาที เว็บไซต์จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและมือใหม่มาก
จุดเด่นที่ทำให้ UpdraftPlus ควรมีในทุกเว็บไซต์
- ใช้งานง่ายที่สุดในกลุ่มปลั๊กอินสำรองข้อมูล
- รองรับ Cloud เกือบทุกแบบ
- กู้คืนได้เร็ว ไม่ต้องตั้งค่าใหม่
- รองรับเว็บใหญ่และเว็บเล็ก
- มีทั้งเวอร์ชันฟรีและเสียเงิน
เวอร์ชันฟรี vs เวอร์ชันโปร
UpdraftPlus เวอร์ชั่น ฟรี
- สำรองข้อมูลครบทุกส่วน
- ตั้งเวลาอัตโนมัติ
- เก็บไว้บน Cloud ได้
- กู้คืนได้ปกติ
UpdraftPlus เวอร์ชั่น โปร
- สำรองแบบคลาวด์หลายบัญชี
- Clone และ migrate เว็บได้
- ZIP encryption
- Support แบบพรีเมียม
สำหรับเว็บทั่วไป เวอร์ชันฟรีก็เพียงพอ
คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น
- ตั้งสำรองข้อมูลอัตโนมัติทุกวัน
- เก็บไฟล์ไว้บน Cloud เสมอ ไม่เก็บบนโฮสอย่างเดียว
- ทดสอบกู้ข้อมูลเดือนละครั้ง
- อย่าเก็บไฟล์สำรองไว้เยอะเกิน เช่น เก็บ 5–7 ชุดก็เพียงพอ
- ถ้าเว็บเป็นร้านค้า (WooCommerce) ควรสำรอง Database ทุก 12 ชั่วโมง
สรุปส่งท้าย ถ้าคุณคิดว่า website ของคุณสำคัญ มีค่า อย่าลืมสำรองข้อมู่ลก่อนที่จะไม่มีให้สำรอง การสำรองข้อมูล แนะนำให้เก็บอย่างน้อย 7 วัน (ไม่ซ้ำ) ทั้งนี้ เพราะเรื่องที่ไม่คาดคิด อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ

