วิธีแก้พิมพ์งานแล้วไม่ออกเครื่องพิมพ์

Printer Issue

ปัญหา “สั่งพิมพ์แล้วเครื่องพิมพ์ไม่ออก” เป็นหนึ่งในปัญหาที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์พบได้บ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงานออฟฟิศ หรือผู้ใช้งานทั่วไป 

หลายครั้งเอกสารสำคัญต้องรีบใช้งาน แต่กลับเกิดเหตุขัดข้องโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เสียเวลาและเกิดความกังวล ปัญหานี้อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ เช่น เลือกเครื่องพิมพ์ผิด เครื่องพิมพ์ออฟไลน์ สายหลุด ไปจนถึงปัญหาซอฟต์แวร์ ไดรเวอร์ หรือระบบคิวงานพิมพ์ค้าง 

บทความนี้จะอธิบายวิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเครื่องพิมพ์ไม่พิมพ์งานแบบเป็นขั้นตอน ไล่ตั้งแต่ระดับพื้นฐานที่ใครๆ ก็ทำเองได้ ไปจนถึงวิธีแก้ไขเชิงลึกที่ช่วยประหยัดเวลาและลดการเรียกช่าง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและพนักงานออฟฟิศที่ต้องการแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง

สาเหตุที่พิมพ์งานแล้วไม่ออกเครื่องพิมพ์

ก่อนแก้ไข ควรเข้าใจสาเหตุที่พบบ่อย เพื่อเลือกวิธีแก้ได้ตรงจุด

  • เลือกเครื่องพิมพ์ (Printer) ผิด
  • เครื่องพิมพ์อยู่ในสถานะ Offline
  • สาย USB / สาย LAN / Wi-Fi มีปัญหา
  • กระดาษหรือหมึกหมด
  • งานพิมพ์ค้างใน Print Queue
  • ไดรเวอร์เครื่องพิมพ์ผิดพลาดหรือเก่า
  • ระบบ Print Spooler ทำงานผิดปกติ
  • เครื่องพิมพ์แชร์จากเครื่องอื่น แต่ต้นทางปิดเครื่อง


วิธีแก้ไขทีละขั้นตอน (แนะนำทำตามลำดับ)

1) ตรวจสอบว่าเลือกเครื่องพิมพ์ถูกต้อง

หลายครั้งคอมพิวเตอร์มีเครื่องพิมพ์หลายตัว (เช่น PDF Printer) จึงอาจเลือกผิดโดยไม่ตั้งใจ

  • กด Ctrl + P ตอนสั่งพิมพ์
  • ดูชื่อเครื่องพิมพ์ที่เลือก
  • เลือกเครื่องพิมพ์จริงที่เชื่อมต่ออยู่

เคล็ดลับ: ตั้งค่าเครื่องพิมพ์ที่ใช้บ่อยเป็น Default Printer จะลดโอกาสเลือกผิด

2) ตรวจสอบสถานะเครื่องพิมพ์ (Online / Offline)

ถ้าเครื่องพิมพ์ Offline จะไม่รับงานพิมพ์

  1. ไปที่ Control Panel > Devices and Printers
  2. คลิกขวาที่เครื่องพิมพ์
  3. ถ้าเห็นคำว่า Offline ให้เลือก Use Printer Online


3) ตรวจสอบสายและการเชื่อมต่อ

ปัญหาพื้นฐานแต่พบบ่อยมาก โดยเฉพาะสายหลวม/หลุด หรือ Wi-Fi หลุด

  • กรณี USB: ถอดแล้วเสียบสายใหม่ ลองเปลี่ยนพอร์ต USB
  • กรณี Wi-Fi / Network: ตรวจสอบว่าเครื่องพิมพ์เชื่อม Wi-Fi เดียวกับคอมพิวเตอร์ และลองรีสตาร์ท Router/เครื่องพิมพ์


4) ตรวจสอบกระดาษและหมึก

แม้เครื่องจะเปิดอยู่ แต่ถ้ากระดาษหรือหมึกมีปัญหา ก็พิมพ์ไม่ออก

  • กระดาษหมด / กระดาษติด
  • ฝาปิดเครื่องพิมพ์ปิดสนิทหรือไม่
  • หมึกหมด หรือหมึกไม่แท้ (บางรุ่นจะไม่ยอมพิมพ์)


5) ล้างคิวงานพิมพ์ (Clear Print Queue)

งานพิมพ์ค้าง 1 งาน อาจทำให้ทั้งระบบหยุด

  1. ไปที่ Devices and Printers
  2. คลิกขวาเครื่องพิมพ์ > See what’s printing
  3. เลือก Cancel All Documents
  4. ปิดแล้วเปิดเครื่องพิมพ์ใหม่


6) รีสตาร์ทบริการ Print Spooler

เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลมากใน Windows โดยเฉพาะเวลาคิวค้างหรือพิมพ์ไม่ออกแบบไม่มีเหตุผลชัดเจน

  1. กด Windows + R
  2. พิมพ์ services.msc
  3. หา Print Spooler
  4. คลิกขวา > Restart


7) อัปเดตหรือติดตั้งไดรเวอร์ใหม่

ไดรเวอร์เก่าหรือเสีย ทำให้สั่งพิมพ์แล้วเครื่องไม่ตอบสนอง

  • ดาวน์โหลดไดรเวอร์จากเว็บไซต์ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์
  • เลือกรุ่นและระบบปฏิบัติการให้ตรง
  • ถอนการติดตั้งไดรเวอร์เก่า แล้วติดตั้งใหม่


8) ทดสอบพิมพ์จากโปรแกรมอื่น

เพื่อแยกว่าเป็นปัญหาที่โปรแกรมหรือเครื่องพิมพ์

  • ลองพิมพ์จาก Notepad
  • พิมพ์ Test Page จาก Properties ของเครื่องพิมพ์

ถ้า Test Page ออก → มักเป็นปัญหาที่โปรแกรมหรือไฟล์เอกสาร
ถ้า Test Page ไม่ออก → มักเป็นปัญหาที่เครื่องพิมพ์/ไดรเวอร์/ระบบ


9) ตรวจสอบเครื่องพิมพ์ที่แชร์จากเครื่องอื่น

กรณีใช้ Printer Share ในออฟฟิศ

  • เครื่องต้นทางต้องเปิดอยู่
  • ต้องเชื่อมต่อเครือข่ายเดียวกัน
  • ลองลบเครื่องพิมพ์ออก แล้ว Add Printer ใหม่


10) รีสตาร์ททุกอย่าง (วิธีสุดท้ายที่ได้ผลบ่อย)

  • ปิดคอมพิวเตอร์
  • ปิดเครื่องพิมพ์
  • ปิด Router (ถ้าเป็น Network Printer)
  • เปิดใหม่ทั้งหมดตามลำดับ


คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานระยะยาว

  • อัปเดต Windows และไดรเวอร์สม่ำเสมอ
  • ใช้หมึกและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน
  • ไม่ปล่อยคิวงานพิมพ์ค้างบ่อย
  • สำหรับองค์กร ควรมีเครื่องพิมพ์สำรองหรือแผนสำรองการพิมพ์