อีกหนึ่งปัญหาของคนใช้คอมฯ ที่พบบ่อย นั่นคือ อาการคอมพิวเตอร์ร้อนจัดแล้วเครื่องดับเอง เป็นปัญหาที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมากต้องเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นคอมตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊ก
โดยเฉพาะในช่วงที่ใช้งานหนัก เช่น เล่นเกม ทำงานกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ หรือเปิดโปรแกรมหลายตัวพร้อมกัน ความร้อนที่สะสมมากเกินไปอาจทำให้ระบบป้องกันของเครื่องทำงาน ส่งผลให้เครื่องดับอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์ภายใน หากปล่อยไว้นานโดยไม่แก้ไข อาจทำให้ฮาร์ดแวร์เสื่อมเร็ว ประสิทธิภาพลดลง หรือเกิดความเสียหายถาวรได้
บทความนี้จะอธิบายสาเหตุของปัญหาคอมร้อนอย่างละเอียด พร้อมแนวทางแก้ไขที่ทำได้จริง เข้าใจง่าย เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านไอที เพื่อช่วยให้คอมพิวเตอร์กลับมาใช้งานได้อย่างเสถียร ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานในระยะยาว
คอมร้อน เครื่องดับเอง เกิดจากอะไรได้บ้าง
1) ฝุ่นสะสมภายในเครื่อง
- ฝุ่นเกาะที่พัดลม ฮีตซิงก์ และช่องระบายอากาศ
- ทำให้อากาศไหลเวียนไม่สะดวก ความร้อนระบายออกไม่ได้
- เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่พบได้บ่อยมาก
2) พัดลมระบายความร้อนทำงานผิดปกติ
- พัดลมหมุนช้า เสียงดัง หรือไม่หมุนเลย
- แบริ่งเสื่อม หรือสายพัดลมหลวม
- ส่งผลให้ซีพียูหรือการ์ดจอร้อนผิดปกติ
3) ซิลิโคนซีพียูเสื่อมสภาพ
- ซิลิโคนแห้ง แข็ง หรือแตกร้าว
- การถ่ายเทความร้อนจากซีพียูไปยังฮีตซิงก์ลดลง
- มักพบในเครื่องที่ใช้งานมานาน 2–3 ปีขึ้นไป
4) ใช้งานหนักเกินขีดจำกัด
- เปิดหลายโปรแกรมพร้อมกัน
- เล่นเกมหรือเรนเดอร์งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- เครื่องสเปกไม่เหมาะกับลักษณะงาน
5) วางเครื่องในที่อับหรืออากาศร้อน
- วางชิดผนัง ใต้โต๊ะ หรือบนที่นอน
- ช่องระบายอากาศถูกปิด
- อุณหภูมิห้องสูง ไม่มีการถ่ายเทอากาศ
6) พาวเวอร์ซัพพลาย (PSU) หรือแบตเตอรี่มีปัญหา
- PSU เสื่อม ทำให้จ่ายไฟไม่สม่ำเสมอ
- โน้ตบุ๊กแบตเสื่อม เกิดความร้อนสะสม
- ระบบตัดไฟอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย
วิธีแก้คอมร้อน เครื่องดับเอง แบบเป็นขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบอุณหภูมิของเครื่อง
- ใช้โปรแกรมดูอุณหภูมิ เช่น CPU / GPU Monitoring
- หากอุณหภูมิซีพียูเกิน 85–90°C ถือว่าสูงผิดปกติ
- จดค่าอุณหภูมิก่อนและหลังแก้ไขเพื่อเปรียบเทียบ
ขั้นตอนที่ 2: ทำความสะอาดฝุ่นภายในเครื่อง
- ปิดเครื่อง ถอดปลั๊กทุกครั้ง
- ใช้ลมเป่าหรือแปรงขนนุ่ม
- เน้นบริเวณพัดลม ฮีตซิงก์ และช่องระบายอากาศ
- แนะนำทำทุก 3–6 เดือน
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบและเปลี่ยนพัดลมที่เสื่อม
- ฟังเสียงพัดลมว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่
- ตรวจสอบการหมุนขณะเปิดเครื่อง
- หากเสีย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที (ราคาไม่สูง แต่ช่วยได้มาก)
ขั้นตอนที่ 4: เปลี่ยนซิลิโคนซีพียู
- เช็ดซิลิโคนเก่าออกให้สะอาด
- ทาซิลิโคนใหม่ในปริมาณพอดี
- ช่วยลดอุณหภูมิได้ 5–15°C ขึ้นอยู่กับสภาพเดิม
ขั้นตอนที่ 5: ปรับพฤติกรรมการใช้งาน
- ปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น
- หลีกเลี่ยงใช้งานหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- พักเครื่องเป็นระยะ โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ก
ขั้นตอนที่ 6: จัดตำแหน่งวางเครื่องให้เหมาะสม
- วางในที่อากาศถ่ายเท
- ไม่วางบนผ้านุ่มหรือที่อุดช่องลม
- โน้ตบุ๊กควรใช้แผ่นรองระบายความร้อน
ขั้นตอนที่ 7: ตรวจสอบพาวเวอร์ซัพพลายหรือแบตเตอรี่
- คอมตั้งโต๊ะ: หากเครื่องดับแบบไม่ทราบสาเหตุ อาจต้องพิจารณา PSU เสื่อม
- โน้ตบุ๊ก: หากแบตบวม ร้อนเร็ว ควรเปลี่ยนทันที
- ช่วยป้องกันความเสียหายต่อเมนบอร์ดและอุปกรณ์อื่นๆ
เคล็ดลับป้องกันคอมร้อนในระยะยาว
- ทำความสะอาดเครื่องสม่ำเสมอ (ทุก 3–6 เดือน)
- ใช้งานในห้องที่อากาศถ่ายเทและอุณหภูมิไม่สูงเกินไป
- เลือกอุปกรณ์ระบายความร้อนที่มีคุณภาพ
- อัปเดตระบบปฏิบัติการและไดรเวอร์ให้ทันสมัย
- หากเครื่องเก่า อาจพิจารณาอัปเกรดฮาร์ดแวร์ให้เหมาะกับงาน


Social Plugin