วิธีตรวจสอบลิงก์อันตรายก่อนคลิก

the link not secure

ทุกวันนี้เราใช้อินเทอร์เน็ตแทบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเช็กอีเมล เล่นโซเชียล ซื้อของออนไลน์ หรือคุยงานผ่านแอปต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับความสะดวกเหล่านี้ คือ “ลิงก์” ที่ถูกส่งมาในรูปแบบต่าง ๆ 

ทั้งจากอีเมล ข้อความ SMS LINE Facebook หรือแม้แต่โฆษณาบนเว็บไซต์ ลิงก์เหล่านี้ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป เพราะมิจฉาชีพมักใช้ลิงก์อันตรายเป็นเครื่องมือหลอกให้เราคลิก เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว รหัสผ่าน หรือเงินในบัญชีโดยที่เราไม่รู้ตัว หลายคนคิดว่า “แค่คลิกเดียวคงไม่เป็นไร” แต่ในความเป็นจริง ความเสียหายอาจเกิดขึ้นทันที 

บทความนี้จะอธิบายวิธีตรวจสอบลิงก์อันตรายก่อนคลิก แบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องมีพื้นฐานด้านไอที เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยมากขึ้น

ลิงก์อันตรายคืออะไร และอันตรายแค่ไหน

ลิงก์อันตราย คือ ลิงก์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้ใช้งานกดเข้าไป โดยมีเป้าหมายหลัก เช่น

  • ขโมยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
  • หลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน บัตรเครดิต
  • ติดตั้งไวรัสหรือโปรแกรมไม่พึงประสงค์ในเครื่อง
  • หลอกให้โอนเงินหรือชำระเงินปลอม

บางลิงก์ดูเหมือนมาจากธนาคาร บริษัทขนส่ง หรือแพลตฟอร์มดัง ทำให้คนทั่วไปหลงเชื่อได้ง่ายมาก

สัญญาณเตือนเบื้องต้นว่าลิงก์อาจไม่ปลอดภัย

ก่อนจะคลิกลิงก์ใด ๆ ลองสังเกตสิ่งเหล่านี้ก่อนเสมอ

  • ข้อความเร่งด่วนเกินจริง เช่น “บัญชีจะถูกระงับภายใน 24 ชั่วโมง” หรือ “ต้องยืนยันด่วน ไม่งั้นข้อมูลหาย”
  • มีของรางวัลล่อใจ เช่น “คุณถูกรางวัล”, “ได้รับเงินคืน”, “ได้ของฟรี” ทั้งที่ไม่เคยร่วมกิจกรรม
  • ผู้ส่งไม่คุ้นเคย อีเมลหรือข้อความจากคนที่ไม่รู้จัก หรือใช้ชื่อองค์กรแต่ดูแปลก ๆ
  • สะกดคำผิด หรือใช้ภาษาไม่เป็นทางการ องค์กรจริงมักใช้ภาษาชัดเจน ไม่ผิดบ่อย

วิธีตรวจสอบลิงก์อันตรายก่อนคลิก (แบบไม่ต้องใช้ความรู้ IT)

1) อย่าเพิ่งคลิก ให้ “ชี้เมาส์ดู” ก่อน

ถ้าใช้งานบนคอมพิวเตอร์ ให้นำเมาส์ไปวางบนลิงก์ (ไม่ต้องคลิก) แล้วดูที่มุมล่างของจอ จะเห็นที่อยู่เว็บไซต์จริง ถ้าไม่ตรงกับเว็บที่ควรเป็น หรือเป็นชื่อแปลก ๆ ให้สงสัยไว้ก่อน

2) ดูชื่อเว็บไซต์ (URL) ให้ละเอียด

เว็บไซต์ปลอมมักใช้ชื่อคล้ายของจริง เช่น

  • ของจริง: bankname.co.th
  • ของปลอม: bankname-secure.xyz หรือ bankname-login.net

หลักง่าย ๆ คือ หากมีตัวอักษร/ขีดแปลก ๆ เยอะผิดปกติ หรือไม่ใช่โดเมนหลักของบริษัท ให้เลี่ยงไว้ก่อน

3) ระวังลิงก์ที่ถูกย่อ (Short URL)

ลิงก์แบบย่อ (เช่น bit.ly, tinyurl) มองไม่เห็นปลายทางจริง และมิจฉาชีพนิยมใช้มาก ถ้าจำเป็นต้องเปิด ให้ตรวจสอบลิงก์ด้วยเครื่องมือตรวจสอบก่อน

4) ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบลิงก์ฟรี

วิธีนี้เหมาะมากสำหรับ non IT แค่ก๊อปลิงก์ไปวางในเว็บไซต์ตรวจสอบ ระบบจะช่วยเช็กความเสี่ยงให้ ถ้าระบบแจ้งว่าอันตราย/ไม่น่าไว้ใจ ให้หยุดทันที

5) อย่ากรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านลิงก์

ไม่ว่าจะเป็นรหัสผ่าน เลขบัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต หรือรหัส OTP หากหน้าเว็บขอข้อมูลเหล่านี้ผ่านลิงก์ ให้ถือว่าเสี่ยงมาก และองค์กรจริงแทบไม่ทำแบบนี้

6) ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ ให้เข้าเว็บเอง

ตัวอย่างเช่น ได้อีเมลแจ้งว่าบัญชีธนาคารมีปัญหา อย่าคลิกลิงก์ในอีเมล ให้เปิดเบราว์เซอร์แล้วพิมพ์ชื่อเว็บของธนาคารเอง วิธีนี้ปลอดภัยกว่ามาก

7) สังเกต “แม่กุญแจ” แต่ไม่ใช่เชื่อ 100%

เว็บไซต์ที่มี https และรูปแม่กุญแจ ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไป เพราะเว็บปลอมก็ทำให้เป็น https ได้ ควรดูชื่อโดเมนควบคู่กันเสมอ

ตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัว

  • SMS แจ้งพัสดุ บอกว่ามีพัสดุติดค้าง ให้กดลิงก์ → เสี่ยงมาก
  • อีเมลแจ้งชนะรางวัล ทั้งที่ไม่เคยร่วมกิจกรรม → มักเป็นมิจฉาชีพ
  • ข้อความจากเพื่อนแต่ภาษาดูแปลก บัญชีเพื่อนอาจถูกแฮก → อย่าคลิกลิงก์ทันที

ถ้าคลิกไปแล้ว ควรทำอย่างไร

  • ปิดหน้าเว็บทันที และอย่ากรอกข้อมูลเพิ่ม
  • เปลี่ยนรหัสผ่านที่เกี่ยวข้อง (อีเมล/โซเชียล/บริการที่สงสัย)
  • สแกนไวรัสหรือมัลแวร์ในเครื่อง
  • หากเกี่ยวกับการเงิน ให้รีบติดต่อธนาคาร/ผู้ให้บริการทันที

สรุปแนวคิดสำคัญ (จำง่าย)

  • ลิงก์อันตราย “ดูเหมือนจริง” เสมอ
  • อย่าเชื่อข้อความเร่งด่วนหรือของฟรี
  • ตรวจสอบก่อนคลิกทุกครั้ง โดยดูชื่อเว็บและปลายทางลิงก์
  • ถ้าไม่แน่ใจ อย่าคลิก