8 ไฟสัญญาณเตือนในรถยนต์

Car warning lights

ไฟสัญญาณเตือนบนแผงหน้าปัดเป็นระบบแจ้งสถานะและความผิดปกติของรถยนต์ ช่วยให้ผู้ขับขี่รับรู้ปัญหาได้ทันท่วงทีและป้องกันความเสียหายที่รุนแรงกว่าเดิม 

 การละเลยไฟเตือนอาจกระทบความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ดังนั้นการเข้าใจความหมาย อาการ สาเหตุที่พบบ่อย และแนวทางแก้ไขเบื้องต้น จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ใช้รถทุกคน เนื้อหาต่อไปนี้สรุปไฟเตือนที่พบบ่อย 8 ประเภทแรก พร้อมคำอธิบายสั้น กระชับ และรายการตรวจสอบเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง




1) ไฟเครื่องยนต์ (Check Engine Light)

ความหมาย: ระบบเครื่องยนต์/ไอเสียหรือการควบคุมการเผาไหม้มีความผิดปกติ

สาเหตุที่พบบ่อย:

  • ฝาถังน้ำมันปิดไม่สนิทหรือซีลเสื่อม
  • เซ็นเซอร์ O2 / MAF ทำงานผิดปกติ
  • หัวเทียนหรือคอยล์จุดระเบิดเสื่อม
  • ระบบไอเสีย/แคทตาไลติกคอนเวอร์เตอร์มีปัญหา

แนวทางแก้ไข: ตรวจสอบฝาถังน้ำมันก่อน หากไฟยังติดควรสแกนโค้ดด้วย OBD-II และเข้าศูนย์บริการเพื่อวินิจฉัย



2) ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง (Oil Pressure Warning)

ความหมาย: แรงดันน้ำมันเครื่องต่ำ เสี่ยงเครื่องยนต์ขาดการหล่อลื่น

สาเหตุ:

  • ระดับน้ำมันเครื่องต่ำหรือรั่วซึม
  • ปั๊มน้ำมันเครื่องเสื่อม/กรองอุดตัน
  • สวิตช์แรงดันน้ำมันเครื่องผิดพลาด

การดำเนินการเร่งด่วน: จอดทันที ดับเครื่อง ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง ห้ามขับต่อหากไฟยังติด เรียกรถลากเข้าศูนย์



3) ไฟเตือนแบตเตอรี่/ระบบชาร์จ (Battery Charge Warning)

ความหมาย: ระบบชาร์จไม่ปกติ ไฟไม่เข้าแบตเตอรี่

สาเหตุ:

  • สายพานไดชาร์จหย่อน/ขาด
  • ไดชาร์จ (Alternator) เสียหรือไดโอดชำรุด
  • ขั้วแบตเตอรี่หลวม/ออกไซด์เกาะ

แนวทางแก้ไข: ตรวจสายพานและขั้วแบต หากไฟยังติดควรตรวจไดชาร์จและสถานะแบตเตอรี่ด้วยโหลดเทสต์



4) ไฟเตือนอุณหภูมิเครื่องยนต์สูง (Engine Temperature Warning)

ความหมาย: เครื่องยนต์ร้อนเกินค่าปกติ (โอเวอร์ฮีต)

สาเหตุ:

  • น้ำหล่อเย็นต่ำ/รั่ว หม้อน้ำตัน
  • ปั๊มน้ำเสีย เทอร์โมสตัทค้าง
  • พัดลมหม้อน้ำ/รีเลย์ไม่ทำงาน

การดำเนินการเร่งด่วน: เปิดฮีตเตอร์เต็ม จอดในที่ปลอดภัย ดับเครื่องเมื่ออุณหภูมิลด ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำขณะร้อน จัดการเติมน้ำยาหลังเย็นและเข้าศูนย์ตรวจ



5) ไฟเตือนเบรก (Brake Warning / รวมถึง ABS แยกต่างหาก)

ความหมาย: ระบบเบรกไม่สมบูรณ์หรือมีวงจรขัดข้อง

สาเหตุที่พบบ่อย:

  • น้ำมันเบรกต่ำ/มีการรั่ว
  • ผ้าเบรกสึกมาก หรือสวิตช์เบรกมือค้าง
  • ไฟ ABS ติดค้าง = เซ็นเซอร์ล้อ/โมดูล ABS ผิดปกติ

แนวทางแก้ไข: หยุดตรวจระดับน้ำมันเบรกและการรั่ว สแกนโค้ด ABS หากมีไฟ ABS แยก ติดต่อตรวจเช็กทันทีเพื่อความปลอดภัย



6) ไฟเตือนถุงลมนิรภัย (Airbag / SRS Warning)

ความหมาย: ระบบ SRS ทำงานผิดปกติ อาจไม่กางถุงลมเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

สาเหตุ:

  • เซ็นเซอร์ชน/สายพานนาฬิกาพวงมาลัย (Clock Spring) เสีย
  • ปลั๊กใต้เบาะหลวม สายไฟ/วงจรมีปัญหา
  • โมดูล SRS จัดเก็บโค้ดความผิดพลาด

แนวทางแก้ไข: ห้ามซ่อมเอง นำเข้าศูนย์เพื่อวินิจฉัยและเคลียร์โค้ดด้วยอุปกรณ์เฉพาะ



7) ไฟเตือนเข็มขัดนิรภัย (Seat Belt Reminder)

ความหมาย: ผู้ขับ/ผู้โดยสารไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยหรือระบบตรวจจับผู้โดยสารทำงาน

ข้อควรปฏิบัติ:

  • คาดเข็มขัดทุกตำแหน่งก่อนออกรถ
  • ตรวจตำแหน่งตัวล็อก/สวิตช์เบาะหากไฟติดผิดปกติ


8) ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ (Low Fuel Warning)

ความหมาย: ระดับน้ำมันใกล้หมด เสี่ยงเครื่องยนต์ดับและปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงสึกหรอ

แนวทางแก้ไข: เติมน้ำมันโดยเร็ว หลีกเลี่ยงการขับจนต่ำกว่าเส้นสำรองเป็นประจำ