Website Audit คืออะไร และทำไมเว็บที่ดูดีอาจไม่มีคนเข้า
Website Audit คือกระบวนการตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นระบบ เพื่อดูว่าเว็บทำงานได้ดีแค่ไหนในมุมของ ผู้ใช้งานจริง, เครื่องมือค้นหา (เช่น Google) และ ประสิทธิภาพด้านเทคนิค เช่น ความเร็วและความเสถียร เว็บไซต์จำนวนมาก “ดูดี” แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คนหาเจอ หรือใช้งานต่อได้จริง ส่งผลให้เว็บไม่มีทราฟฟิก ไม่มีลีด และไม่สร้างยอดขาย
ปัญหาหลักของเว็บที่ “ไม่มีคนเข้า” มักเกิดจากอะไร
- ไม่มีการทำ SEO ตั้งแต่ต้น
- Google ไม่สามารถเก็บข้อมูลเว็บไซต์ได้ครบ (Index ไม่สมบูรณ์)
- เว็บโหลดช้า โดยเฉพาะบนมือถือ
- ไม่มีระบบวัดผล เช่น GA4 หรือวัดผลไม่ครบ
- เนื้อหาไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหา
- โครงสร้างเว็บซับซ้อน ผู้ใช้หลงทาง
- ไม่มี Call to Action ทำให้ไม่รู้ว่าผู้ใช้สนใจอะไร
- ปัญหาเทคนิคเล็กๆ (ลิงก์เสีย, รูปใหญ่, Error) ที่กระทบอันดับ
Website Audit ช่วยตอบคำถามอะไรได้บ้าง
- มีคนเข้าเว็บจริงหรือไม่ และเข้ามามากน้อยแค่ไหน
- คนเข้ามาจากช่องทางไหน (Google, Social, Direct ฯลฯ)
- คนอยู่หน้าเว็บนานแค่ไหน และออกจากหน้าไหนมากที่สุด
- มีคำค้นหาอะไรที่ทำให้เจอเว็บไซต์
- ผู้เข้าชมสนใจบริการ/สินค้าใด (ดูจากหน้าและการคลิก)
1) ตรวจสอบ Traffic: มีคนเข้าเว็บจริงหรือไม่
เริ่มจาก “ตัวเลขจริง” เพื่อไม่ต้องเดา:
- จำนวนผู้เข้าชมต่อวัน/ต่อเดือน
- ผู้ใช้ใหม่ vs ผู้ใช้เดิม
- อุปกรณ์ที่ใช้ (มือถือ/คอมพิวเตอร์)
- ประเทศ/เมือง (ถ้าเป็นธุรกิจท้องถิ่นช่วยมาก)
ถ้าไม่มีข้อมูลเหล่านี้ แปลว่าเว็บไซต์ “มองไม่เห็นพฤติกรรมผู้ใช้เลย” และวางแผนต่อยากมาก
2) ตรวจสอบเครื่องมือวัดผล (Analytics Audit)
หลายเว็บเจอปัญหา “ติดตั้งแล้วแต่ไม่รู้ว่าเก็บอะไรได้บ้าง” หรือ “เก็บไม่ครบ” สิ่งที่ควรตรวจ:
- ติดตั้ง GA4 ถูกต้อง (Tag ยิงเข้าทุกหน้า)
- ตั้งค่า Event สำคัญ: คลิกปุ่มติดต่อ, คลิกเบอร์โทร, คลิก Line, ส่งฟอร์ม
- เชื่อม Google Search Console เพื่อดูคำค้นหา/อันดับ
- ตั้งค่า Conversion เพื่อวัดผลที่ “มีความหมาย” ไม่ใช่แค่วิว
3) SEO Audit: Google มองเห็นเว็บคุณหรือไม่
SEO คือหัวใจของเว็บที่ต้องการคนเข้าแบบยั่งยืน สิ่งที่ต้องตรวจ:
- หน้าเว็บถูก Index บน Google หรือไม่
- Title / Meta Description สื่อสารชัด และมีคีย์เวิร์ด
- โครงสร้าง Heading (H1–H3) ถูกลำดับ อ่านง่าย
- URL อ่านง่าย สื่อความหมาย ไม่ยาวเกิน
- มี Sitemap และ Robots.txt เหมาะสม
- Internal Link เชื่อมบทความ/บริการให้คนไปต่อได้
เว็บที่ไม่มี SEO ต่อให้สวยแค่ไหน ก็แทบไม่มีคน “ค้นหาเจอ” ครับ
4) Content Audit: เนื้อหาตรงกับสิ่งที่คนค้นหาหรือไม่
คำถามสำคัญที่ต้องตอบให้ได้:
- เนื้อหาเขียนเพื่อ “ลูกค้า” หรือเขียนเพื่อ “เล่าเรื่องบริษัท” อย่างเดียว
- ใช้คำที่ลูกค้าค้นหาจริงหรือไม่ (Keyword Intent)
- มีบทความให้ความรู้ที่ช่วยดึงคนจาก Google หรือไม่
- หน้า Service/สินค้า อธิบายชัด มีตัวอย่าง/ราคา/ขั้นตอนหรือยัง
เว็บไซต์ที่มีแต่ “แนะนำบริษัท” แต่ไม่มีคอนเทนต์ตอบคำถามลูกค้า มักไม่มีทราฟฟิกจาก Google
5) User Experience Audit: คนเข้าแล้วอยู่ต่อหรือไม่
ต่อให้มีคนเข้า ถ้าเว็บใช้งานยาก คนก็ออกทันที:
- เมนูเข้าใจง่ายหรือไม่ (หาของเจอภายใน 3 คลิก)
- รองรับมือถือดีหรือยัง (ปุ่มไม่เล็ก ตัวหนังสือไม่แน่น)
- หน้าโหลดไวหรือไม่ (โดยเฉพาะหน้าแรก/หน้าบริการ)
- ปุ่มติดต่อชัดเจนหรือไม่ (โทร/ไลน์/ฟอร์ม)
- รูป/วิดีโอหนักเกินไปไหม
6) Conversion Audit: รู้หรือไม่ว่าคนสนใจอะไร
หลายเว็บไม่รู้ว่า คนคลิกอะไร สนใจหน้าไหน และติดต่อจากหน้าใด Website Audit จะช่วยวางระบบให้วัดผลได้จริง เช่น:
- ติดตามการคลิกปุ่ม Contact / Line / Email / โทร
- วัดผลการส่งฟอร์ม (Form Submit)
- วิเคราะห์เส้นทางผู้ใช้ (User Journey) ก่อนติดต่อ
- ปรับ Call to Action ให้เหมาะกับแต่ละหน้า
เป้าหมายคือเปลี่ยน “คนเข้าเว็บ” ให้เป็น “ลูกค้า” ครับ
7) Technical Audit: ปัญหาที่มองไม่เห็นแต่กระทบหนัก
ตัวอย่างปัญหาที่เจอบ่อย และทำให้ Google/ผู้ใช้ลดความเชื่อมั่น:
- SSL หมดอายุ หรือมีหน้าไม่ขึ้น https
- หน้า Error (404/500) หรือมีลิงก์เสีย
- รูปใหญ่เกินไป ทำให้เว็บช้า
- สคริปต์เยอะเกิน ทำให้หน่วงบนมือถือ
- ไม่มีการจัดการ Cache/CDN (ในบางเคส)
Website Audit เหมาะกับใครบ้าง
- ธุรกิจที่มีเว็บแต่ยอดขายไม่มา
- บริษัทที่ทำเว็บมานาน แต่ไม่รู้ผลลัพธ์
- เจ้าของกิจการที่อยากรู้ว่าลูกค้าสนใจอะไร
- ทีมการตลาดที่ต้องการข้อมูลจริงเพื่อตัดสินใจ
- ธุรกิจบริการ/โรงแรม/SME ที่ต้องการเพิ่มทราฟฟิกและลีด
หลังทำ Website Audit ควรทำอะไรต่อ
ผลลัพธ์ของ Audit ไม่ใช่แค่รายงาน แต่ควรต่อยอดเป็น “แผนแก้ไข” เช่น:
- ปรับ SEO On-page และโครงสร้างเว็บ
- เพิ่มคอนเทนต์ที่ตอบคำถามลูกค้า และทำให้ติดอันดับ
- ปรับ UX ให้คนไปต่อได้ง่าย ลดการกดออก
- ตั้ง Conversion Tracking ให้รู้ว่าลูกค้ามาจากหน้าไหน
- เชื่อมแผนการตลาด (Social / Ads / Email) ให้พาเว็บโตอย่างมีทิศทาง
สรุป: Website Audit คือการ “เลิกเดา” แล้วใช้ข้อมูลจริงในการทำให้เว็บมีคนเข้าและสร้างลูกค้าได้
*สนใจหรือต้องการบริการ คลิก >> Website Audit Services


Social Plugin