ทำความเข้าใจก่อนว่า “แอปที่ลบไม่ได้” คืออะไร
แอปที่ลบไม่ได้มักแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ แอประบบ (System Apps) และ แอปที่ผู้ผลิตติดตั้งมาให้ (Bloatware) โดยแอประบบเป็นส่วนที่ระบบปฏิบัติการต้องใช้ เช่น โทรศัพท์ ข้อความ ความปลอดภัย ส่วน Bloatware คือแอปโฆษณา บริการเสริม หรือแอปพาร์ทเนอร์ ที่ผู้ผลิตใส่มาให้และมักไม่ให้ลบออกโดยตรง
ประเภทหลักของแอปที่ลบไม่ได้
- แอประบบ (System Apps): แอปที่ระบบต้องใช้เพื่อให้เครื่องทำงานได้ปกติ
- แอปติดเครื่อง (Bloatware): แอปเสริมที่ผู้ผลิต/ผู้ให้บริการติดตั้งมาให้
หมายเหตุ: แม้จะลบไม่ได้ แต่ในหลายกรณีสามารถ “ปิดการใช้งาน” เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและทำให้แอปไม่รันเบื้องหลังได้
วิธีลบหรือจัดการแอปที่ลบไม่ได้บน Android
วิธีที่ 1: ปิดการใช้งานแอป (Disable) — แนะนำสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เหมาะสำหรับแอปติดเครื่องและบางแอประบบที่ไม่จำเป็น
- ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
- เลือก แอป (Apps / Application Manager)
- เลือกแอปที่ต้องการ
- กด ปิดการใช้งาน (Disable)
- ยืนยันการปิดใช้งาน
ผลลัพธ์หลังปิดการใช้งาน
- แอปจะไม่ทำงานและไม่รันเบื้องหลัง
- หยุดการอัปเดตอัตโนมัติของแอปนั้น
- ไอคอนแอปอาจหายจากหน้าจอ
- แอปยังอยู่ในเครื่อง แต่ไม่กระทบการใช้งาน
วิธีที่ 2: ถอนการอัปเดต (Uninstall Updates) แล้วค่อย Disable
บางแอปไม่สามารถ Disable ได้ทันที หรือกินพื้นที่มากจากการอัปเดต สามารถถอนการอัปเดตก่อนแล้วค่อยปิดใช้งาน
- Settings → Apps
- เลือกแอปที่ต้องการ
- กด Uninstall Updates (ถอนการอัปเดต)
- จากนั้นกด Disable
วิธีที่ 3: ลบแอปด้วย ADB (ไม่ต้อง Root) — สำหรับผู้ใช้ระดับกลาง
ADB (Android Debug Bridge) ช่วยลบแอปในระดับผู้ใช้ (User 0) ทำให้แอปหายไปจากระบบของผู้ใช้โดยไม่ต้อง Root
สิ่งที่ต้องเตรียม
- คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง
- สาย USB
- เปิด Developer Options และ USB Debugging
ขั้นตอนโดยสรุป
- ไปที่ Settings → About phone → แตะ Build number 7 ครั้ง (เพื่อเปิด Developer Options)
- Settings → Developer Options → เปิด USB Debugging
- เชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ และยืนยันการอนุญาต Debug
- ใช้คำสั่ง ADB เพื่อถอนการติดตั้งใน user 0
ตัวอย่างคำสั่ง (อธิบายแนวทาง)
adb devices
adb shell
pm uninstall --user 0 package.name
ข้อดี: ไม่ต้อง Root และแอปหายจากมุมมองผู้ใช้
ข้อควรระวัง: รีเซ็ตเครื่องแอปอาจกลับมา และไม่ควรลบแอประบบหลัก เช่น System UI
วิธีที่ 4: Root เครื่อง (ขั้นสูง — ไม่แนะนำทั่วไป)
การ Root จะได้สิทธิ์สูงสุดในการควบคุมระบบและสามารถลบแอประบบได้จริง แต่มีความเสี่ยงสูง
- ข้อดี: ลบแอประบบได้จริง ควบคุมเครื่องได้เต็มที่
- ข้อเสีย: อาจหมดประกัน เสี่ยงด้านความปลอดภัย และระบบอาจไม่เสถียร
วิธีจัดการแอปที่ลบไม่ได้บน iPhone (iOS)
ทำไม iPhone ถึงลบแอปไม่ได้ทั้งหมด
iOS ออกแบบให้ระบบมีความปลอดภัยสูง แอปบางตัวเป็นส่วนสำคัญของระบบ เช่น Phone, Messages, App Store จึงไม่สามารถลบได้ แต่ยังมีวิธี “ซ่อน/จำกัดการใช้งาน” เพื่อไม่ให้รบกวนการใช้งาน
วิธีที่ 1: ลบแอปที่ Apple อนุญาตให้ลบ
- กดค้างที่ไอคอนแอป
- เลือก Remove App
- เลือก Delete App
วิธีที่ 2: ซ่อนแอปด้วย Screen Time (เหมาะกับแอปที่ลบไม่ได้)
- Settings → Screen Time
- เลือก Content & Privacy Restrictions
- เข้า Allowed Apps
- ปิดแอปที่ไม่ต้องการให้ใช้งาน
เมื่อปิดแล้ว แอปจะหายจากหน้าจอและไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะเปิดกลับ
วิธีที่ 3: Offload App (คืนพื้นที่ แต่เก็บข้อมูลไว้)
- Settings → General → iPhone Storage
- เลือกแอปที่ต้องการ
- กด Offload App
เหมาะกับแอปที่ใช้นานๆ ครั้งและอยากคืนพื้นที่ โดยยังเก็บเอกสาร/ข้อมูลไว้
ข้อควรระวังสำคัญ
- อย่าลบ/ปิดแอปที่เกี่ยวข้องกับระบบหลัก เช่น ระบบโทร, ระบบ UI, ความปลอดภัยหลักของเครื่อง
- สำรองข้อมูลก่อนใช้วิธีขั้นสูง โดยเฉพาะการใช้ ADB หรือ Root
- หลีกเลี่ยงแอปภายนอกที่อ้างว่าสามารถลบแอประบบได้ทั้งหมด เพราะเสี่ยงมัลแวร์/โฆษณาแฝง
คำแนะนำเลือกวิธีให้เหมาะกับผู้ใช้
- ผู้ใช้ทั่วไป: ใช้ Disable (Android) หรือ Screen Time (iPhone) ปลอดภัยและเพียงพอ
- ผู้ใช้ระดับกลาง: ใช้ ADB (Android) เพื่อให้แอปหายจากระบบผู้ใช้
- ผู้เชี่ยวชาญ: Root เฉพาะเมื่อจำเป็นจริงและเข้าใจความเสี่ยง
- องค์กร: แนะนำใช้ระบบ MDM เพื่อควบคุม/จำกัดแอปอย่างเป็นระบบ


Social Plugin