แก้ปัญหา OneDrive Sync ไม่ขึ้น / Sync ช้า / ค้าง

OneDrive

OneDrive เป็นบริการ Cloud Storage ของ Microsoft ที่หลายองค์กรและผู้ใช้งานทั่วไปใช้สำหรับเก็บไฟล์ สำรองข้อมูล และทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ 

แต่บางครั้งอาจเจอปัญหา OneDrive Sync ไม่ขึ้น ไฟล์ไม่อัปเดต Sync ช้ามาก หรือค้างอยู่ตลอด ส่งผลให้การทำงานสะดุดและไฟล์ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะงานที่มีไฟล์จำนวนมากหรือใช้งานในเครือข่ายองค์กร 

 บทความนี้สรุปสาเหตุหลักและวิธีแก้แบบเป็นขั้นตอน ตั้งแต่วิธีง่าย ๆ สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ไปจนถึงแนวทางที่ทีม IT นิยมใช้ เพื่อให้ OneDrive กลับมาซิงก์ได้ปกติและเสถียรขึ้น

อาการที่พบบ่อยของปัญหา OneDrive Sync

  • ไอคอน OneDrive ไม่ขึ้น หรือเป็นสีเทา
  • ไฟล์ไม่ Sync ทั้งที่แก้ไขแล้ว
  • Sync ช้ามาก (โดยเฉพาะไฟล์จำนวนมาก)
  • ขึ้นข้อความ “Sync Paused” หรือ “Processing changes” ค้างนาน
  • ไฟล์บางชนิด Sync ไม่ได้ (มีเครื่องหมาย X สีแดง)

สาเหตุหลักที่ทำให้ OneDrive Sync มีปัญหา

  1. อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร/ความเร็วต่ำ (โดยเฉพาะ Upload)
  2. ไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์จำนวนมาก ทำให้ประมวลผลนาน
  3. ชื่อไฟล์/โฟลเดอร์ไม่รองรับ เช่นมีอักขระพิเศษ : * ? < > |
  4. พื้นที่ OneDrive เต็ม หรือใกล้เต็ม
  5. OneDrive หรือ Windows ไม่อัปเดต ทำให้บั๊กเกิดได้
  6. Firewall / Antivirus / Proxy บล็อกการเชื่อมต่อ (พบบ่อยในองค์กร)
  7. บัญชีหลุด/การยืนยันตัวตนผิดพลาด (Sign-in issue)


วิธีแก้ปัญหา OneDrive Sync ไม่ขึ้น / Sync ช้า / ค้าง (ทำตามลำดับ)

1) ตรวจสอบสถานะ OneDrive เบื้องต้น

  • คลิกไอคอน OneDrive ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ
  • ดูสถานะ เช่น Paused, Syncing, Error
  • ถ้าเห็น Paused ให้กด Resume syncing

2) ตรวจสอบอินเทอร์เน็ต

  • ทดสอบความเร็วเน็ต โดยเฉพาะ Upload (แนะนำอย่างน้อย 5–10 Mbps สำหรับไฟล์งาน)
  • ถ้าใช้ Wi-Fi ที่สัญญาณแกว่ง ให้ลองสลับเป็น LAN หรือเปลี่ยนเครือข่าย

3) ปิด–เปิด OneDrive ใหม่

  • คลิกไอคอน OneDrive > Settings (รูปเฟือง) > Quit OneDrive
  • เปิด OneDrive ใหม่จาก Start Menu
  • เหมาะกับอาการ Sync ค้างเพราะ Cache/Process ค้าง

4) ตรวจสอบชื่อไฟล์และโฟลเดอร์

  • หลีกเลี่ยงชื่อไฟล์ยาวเกินไป (รวม path แล้วไม่ควรยาวมาก)
  • ลบอักขระพิเศษที่ OneDrive ไม่รองรับ เช่น : * ? < > |
  • ถ้าไฟล์บางตัวมี X สีแดง ให้ลองเปลี่ยนชื่อไฟล์นั้นก่อน

5) ตรวจสอบพื้นที่จัดเก็บ OneDrive

  • เข้า OneDrive บนเว็บเพื่อตรวจสอบ Storage
  • ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น หรือย้ายไฟล์ใหญ่ไปเก็บที่อื่น
  • ถ้าเป็นองค์กร ให้ตรวจสิทธิ/โควตาใน Microsoft 365 Admin

6) ตั้งค่าจำกัดความเร็ว Sync (กรณี Sync ช้า/เน็ตองค์กรแน่น)

  • OneDrive Settings > Network
  • ลองกำหนด Upload/Download rate แบบ Limit เพื่อไม่ให้แย่งเน็ตงานอื่น

7) อัปเดต OneDrive และ Windows

  • OneDrive โดยปกติอัปเดตอัตโนมัติ แต่ควรรีสตาร์ตเครื่องเป็นระยะ
  • ตรวจ Windows Update ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อลดบั๊ก

8) Sign out แล้ว Sign in ใหม่ (กรณี Sync ไม่ขึ้นหรือบัญชี Error)

  • OneDrive Settings > Account > Unlink this PC
  • เปิด OneDrive และลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง
  • เหมาะกับอาการยืนยันตัวตนผิดพลาด หรือ Token หมดอายุ

9) Reset OneDrive (ขั้นแนะนำสำหรับ IT)

วิธีนี้จะรีเซ็ตการทำงานของ OneDrive และสร้างการ Sync ใหม่โดยอัตโนมัติ (โดยทั่วไปไม่ลบไฟล์บนเครื่องหรือบนคลาวด์)

  1. กด Win + R
  2. วางคำสั่งนี้แล้วกด Enter:
%localappdata%\Microsoft\OneDrive\onedrive.exe /reset
  • รอสักครู่ ไอคอน OneDrive จะหายไปและกลับมาใหม่
  • ถ้าไม่กลับมา ให้เปิด OneDrive จาก Start Menu

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับองค์กร / โรงแรม

  • ตรวจ Firewall / Proxy ว่าไม่ได้บล็อกการเชื่อมต่อ OneDrive
  • แนะนำให้ใช้ Files On-Demand เพื่อลดการดาวน์โหลดไฟล์ทั้งหมดลงเครื่อง
  • หลีกเลี่ยงการ Sync โฟลเดอร์ที่เป็นไฟล์ระบบหรือไฟล์ที่ถูกล็อกตลอด (เช่นไฟล์ฐานข้อมูลที่เปิดค้าง)
  • กำหนดแนวทางตั้งชื่อไฟล์ (File Naming) เพื่อป้องกันอักขระต้องห้าม
  • ถ้าหลายเครื่อง Sync ช้ามาก ให้พิจารณาแยกเครือข่ายงาน/Guest และจัด QoS ตามความเหมาะสม

OneDrive Sync ที่ไม่ขึ้น ช้า หรือค้าง มักเกิดจากเน็ต ชื่อไฟล์ การตั้งค่า หรือระบบที่ไม่อัปเดต ส่วนการแก้ไขได้ด้วยการตรวจสอบเป็นขั้นตอน รีเซ็ต OneDrive และตั้งค่าให้เหมาะกับการใช้งานจริง