1) ทำความเข้าใจโครงสร้างการจัดเก็บของ Google Drive
Google Drive ทำงานในลักษณะ “ศูนย์กลางไฟล์” ที่เข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ไฟล์ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้บนระบบคลาวด์ของ Google ช่วยลดการพึ่งพาแฟลชไดรฟ์หรือฮาร์ดดิสก์
- My Drive: พื้นที่เก็บไฟล์หลักของผู้ใช้
- Shared with me: ไฟล์/โฟลเดอร์ที่ผู้อื่นแชร์ให้
- Recent / Starred: ค้นหาไฟล์ที่ใช้งานบ่อยได้เร็ว
- Trash: ไฟล์ที่ลบแล้ว (มักกู้คืนได้ภายใน 30 วัน)
การเข้าใจโครงสร้างเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญก่อนเริ่มตั้งค่าความปลอดภัยและการทำงานร่วมกัน
2) จัดโฟลเดอร์อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงไฟล์หาย
โฟลเดอร์ที่เป็นระเบียบช่วยค้นหาเร็ว ลดการแชร์ผิดที่ และลดโอกาสลบไฟล์ผิดโฟลเดอร์ โดยเฉพาะงานองค์กรที่มีไฟล์จำนวนมาก
- แยกโฟลเดอร์ตาม ประเภทงาน เช่น เอกสาร, บัญชี, ออกแบบ
- แยกตาม ปี / โครงการ / แผนก สำหรับงานองค์กร
- ตั้งชื่อไฟล์ให้สื่อความหมาย เช่น IT_Policy_2025_v1.pdf
- หลีกเลี่ยงการเก็บไฟล์ทั้งหมดรวมไว้ที่ My Drive แบบไม่จัดหมวดหมู่
แนะนำให้กำหนด “มาตรฐานการตั้งชื่อไฟล์” ภายในทีม เพื่อให้ค้นหาและตรวจสอบเวอร์ชันได้ง่ายขึ้น
3) ตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึง (Sharing Permissions) อย่างปลอดภัย
จุดเสี่ยงอันดับต้นๆ ของการใช้ Google Drive คือการแชร์ไฟล์โดยไม่กำหนดสิทธิ์ให้เหมาะสม ควรใช้หลัก “ให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น (Least Privilege)” เพื่อจำกัดความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล
ระดับสิทธิ์หลัก
- Viewer (ดูได้อย่างเดียว): เหมาะสำหรับไฟล์อ้างอิง
- Commenter (คอมเมนต์ได้): เหมาะสำหรับงานตรวจทาน
- Editor (แก้ไขได้): ให้เฉพาะผู้ที่จำเป็นจริงๆ
คำแนะนำด้านความปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการตั้งค่า Anyone with the link สำหรับไฟล์สำคัญ
- ตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าถึงเป็นระยะ และลบสิทธิ์ที่ไม่จำเป็น
- เมื่อจบโปรเจกต์ ให้ “ปิดการแชร์” หรือปรับสิทธิ์เป็น Viewer
4) เปิด Two-Step Verification (2FA) ป้องกันบัญชีถูกแฮ็ก
ต่อให้ไฟล์ปลอดภัยแค่ไหน หากบัญชี Google ถูกขโมย ข้อมูลทั้งหมดก็เสี่ยงทันที ดังนั้นควรเพิ่มความปลอดภัยที่ “บัญชีผู้ใช้”
- เปิดใช้งาน 2-Step Verification (2FA) ด้วยแอป Authenticator หรือวิธีที่องค์กรกำหนด
- ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง (ยาว, ไม่ซ้ำ, เดายาก) และไม่ใช้ซ้ำกับบริการอื่น
- ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ล็อกอินบัญชี Google เป็นระยะ และออกจากระบบอุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก
5) วางแผนสำรองไฟล์ (Backup) เพื่อความมั่นใจระยะยาว
Cloud มีความเสถียร แต่การมีแผนสำรองยังจำเป็น โดยเฉพาะไฟล์สำคัญหรือไฟล์ด้านการเงิน/สัญญา/ข้อมูลลูกค้า
- ดาวน์โหลดไฟล์สำคัญเก็บไว้ใน External Hard Drive ตามรอบเวลา (เช่น รายเดือน)
- ใช้ Google Drive for Desktop เพื่อ Sync ไฟล์กับคอมพิวเตอร์ (ควบคุมสิทธิ์และพื้นที่จัดเก็บให้เหมาะสม)
- แยกบัญชีงานกับบัญชีส่วนตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากการแชร์ผิดหรือการเข้าถึงข้ามกัน
6) ใช้ Version History ลดความเสียหายจากการแก้ไขผิด
สำหรับไฟล์ Google Docs, Sheets และ Slides คุณสามารถดูประวัติการแก้ไขและย้อนกลับเวอร์ชันก่อนหน้าได้ ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อทำงานร่วมกันหลายคน
- กู้คืนไฟล์เวอร์ชันเก่าได้อย่างรวดเร็ว
- ตรวจสอบว่าใครแก้ไขอะไร และเมื่อใด
- ลดปัญหาไฟล์ “ถูกแก้ผิด” หรือข้อมูลหายจากการบันทึกทับ
7) แนวทางใช้งาน Google Drive สำหรับองค์กร
หากใช้ในองค์กรหรือโรงแรม ควรกำหนดนโยบายและมาตรฐาน เพื่อให้ทุกคนใช้รูปแบบเดียวกัน ลดความเสี่ยงด้าน IT Security
- กำหนดโครงสร้างโฟลเดอร์กลาง (เช่น แผนก/โครงการ/ปี) และเจ้าของโฟลเดอร์
- จำกัดการแชร์ออกนอกองค์กร โดยให้แชร์ได้เฉพาะโดเมนที่อนุญาต
- อบรมพนักงานเรื่องการแชร์ไฟล์ การตั้งสิทธิ์ และการระวังลิงก์
- ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงเป็นรอบ (Quarterly/Monthly) โดยเฉพาะโฟลเดอร์สำคัญ
สรุปสั้นๆ การใช้ Google Drive อย่างปลอดภัยควรเริ่มจากการจัดโฟลเดอร์ให้เป็นระบบ ตั้งค่าสิทธิ์การแชร์อย่างเหมาะสม เปิดใช้งาน 2FA เพื่อป้องกันบัญชี และสำรองข้อมูลสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงไฟล์สูญหายและข้อมูลรั่วไหล


Social Plugin