คริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) คือสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการทำธุรกรรมและเก็บข้อมูลการเงินต่างๆ คำว่า "คริปโต" หมายถึงการเข้ารหัสลับที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยและป้องกันการปลอมแปลง
ลักษณะสำคัญของคริปโตเคอเรนซี
1. ไม่มีตัวกลาง
- คริปโตเคอเรนซีไม่ต้องใช้ธนาคารหรือองค์กรกลางในการทำธุรกรรม ทำให้ทุกคนสามารถโอนเงินกันโดยตรงผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
2. การเข้ารหัสและความปลอดภัย
- ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยของการทำธุรกรรมและข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้
3. บล็อกเชน (Blockchain)
- ทุกการทำธุรกรรมจะถูกบันทึกลงใน "บล็อก" และเชื่อมโยงกันเป็น "เชน" ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่ายและป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล
4. กระจายอำนาจ
- ไม่มีองค์กรหรือบุคคลใดควบคุมหรือเป็นเจ้าของระบบทั้งหมด ทุกคนที่ใช้งานคริปโตเคอเรนซีมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยและการทำงานของเครือข่าย
ตัวอย่างคริปโตเคอเรนซีที่รู้จักกันดี
- บิทคอยน์ (Bitcoin)
คริปโตเคอเรนซีตัวแรกที่สร้างขึ้นในปี 2009 โดยบุคคลหรือกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "ซาโตชิ นากาโมโตะ" (Satoshi Nakamoto) ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อทำธุรกรรมแบบกระจายอำนาจ ปลอดภัย และไม่มีตัวกลาง - อีเธอเรียม (Ethereum)
คือแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่สร้างขึ้นในปี 2015 โดย Vitalik Buterin มันเน้นการใช้สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) เพื่อสร้างและดำเนินการแอปพลิเคชันที่ไม่มีตัวกลาง รวมถึงคริปโตเคอเรนซีชื่อ "อีเธอร์" (Ether)
การใช้งานคริปโตเคอเรนซี
- การลงทุน: คริปโตเคอเรนซีสามารถซื้อขายเพื่อเก็งกำไรหรือถือครองระยะยาวเหมือนกับการลงทุนในหุ้น
- การชำระเงิน: สามารถใช้คริปโตเคอเรนซีในการชำระเงินสำหรับสินค้าหรือบริการที่รองรับ
- การโอนเงินข้ามประเทศ: สามารถโอนเงินระหว่างประเทศได้รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าการโอนเงินผ่านธนาคารทั่วไป
คริปโตเคอเรนซี เป้นสกุลเงินดิจิทัล ที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงที่สูงมาก ดังนั้น ควรศึกษาและเข้าใจให้ดีก่อนการลงทุนหรือใช้งานจริง เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ