Buying Guide

แนะนำการเลือกซื้ออุปกรณ์ ไอที รวมทั้งสินค้าไฮเทค โดยจะเน้นทำความรู้จักกับอุปกรณ์ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจะแนะนำคุณสมบัติที่น่าสนใจ จุดเด่นในการเลือกซื้อ แต่อย่างไรก็ตาม การจะเลือกซื้ออุปกรณ์ใดๆ นั้น ย่อมขึ้นกับการนำไปใช้ให้คุ้มค่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ในบางอุปกรณ์อาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติม ที่แตกต่างจากกันไปบ้าง แต่สำหรับคุณสมบัติหลักๆ ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ใช้เป็นหลักในการเลือกซื้อ หวังว่าคงจะเป็นแนวทางในการเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้นน่ะครับ..

เทคโนโลยีใหม่ๆ ของ Notebook

สำหรับหลายๆ คนที่กำลังจะเลือกซื้อ Notebook คงสับสนกับข้อมูลทางด้านเทคนิคที่แตกต่างกันของแต่ละยี่ห้อ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว เราจะเลือกซื้อ Notebook ด้วยวิธีการอย่างไร แล้วอะไรเป็นมาตราฐานในการเลือกซื้อ และความเหมาะสมควรเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับมูลค่าที่เราได้จ่ายเงินซื้อไป

เทคโนโลยีของ Notebook ที่ควรทราบ

  • CPU - สมองของคอมพิวเตอร์ Centrino คือ ซีพียู ที่สร้างมาสำหรับ Notebook โดยเฉพาะ เน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน ลดความร้อนของซีพียู ทำให้อายุการใช้งานนานขึ้น นอกจากนี้ยังได้รวมเทคโนโลยี wireless ใว้ในตัวเดียวกัน (ชื่อ Centrino ทาง Intel กำลังจะเปลี่ยนการเรียกชื่อนี้ และจำใช้ "Core" แทนการเรียก โดยมีการแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ Core i7 (ดีสุด) Core i5 (รองลงมา) และ Core i3 ตามลำดับ) สำหรับ CPU รุ่นอื่นๆ ของ Intel มีดังนี้
    • Core 2 Duo ซีพียู 2 Core ที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้
    • Celelon สำหรับชิบราคาถูก
    • Pentium สำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไป
    • Atom สำหรับชิบสำหรับ NetBook โดยเฉพาะ (CPU สำหรับเน้นการใช้งานแบบปกติ พิมพ์เอกสาร เช็คเมล เล่นเน็ต เท่านั้น)
  • Harddisk - ศูนย์กลางการเก็บข้อมูลและที่กำลังเป็นที่นิยมคือ SSD (Sloid-State Drives) ใช้ iC Chip บันทึกแทน แบบจานหมุนแบบเก่าๆ แต่ความจุอาจยังไม่มากนัก ส่วนใหญ่ใช้กับ Netbook มากกว่า Notebook (ทำความรู้จัก Netbook ให้มากขึ้น)
  • Memory - DDR สำหรับรุ่นที่แนะนำคือ DD2 ขึ้นไป และถ้าให้ให้เลือกรุ่น DD3 เลย แต่ราคายังสูงอยู่
  • FingerPrint - Logon เข้าคอมพิวเตอร์ผ่านทางลายนิ้วมือ อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เริ่มใช้งานกันมากขึ้น
  • Sound - Dolby Stereo ระบบเสียงที่ดีขึ้น ปัญหาที่เราพบกันบ่อยๆ คือ Notebook แบบเดิมๆ ส่วนใหญ่ที่มีพลังเสียงที่ค่อนข้างมีคุณภาพต่ำ เปิดเสียงดังมากไม่ได้
  • แสงไฟส่องบนแป้นพิมพ์ - น้อยรุ่นนักที่จะได้พบเห็น แต่ก็มี Notebook หลายรุ่น หลายยี่ห้อที่มีการเพิ่มความสามารถนี้
  • Card Reader - สำหรับอ่าน memory card ประเภทต่างๆ จากโทรศัพท์มือถือ หรือกล้องดิจิตอล
  • Touch Sceen - หน้าจอแบบสัมผัส อีกหนึ่งความล้ำหน้าที่นำมาสู่ Notebook
  • WebCam - ไม่มีไม่ได้แล้ว สำหรับนักท่องเน็ต ทำให้สามารถเห็นหน้าเห็นตา โดยเฉพาะใช้รวมกับ Skype หรือ IM อื่นๆ ?รวมทั้งใช้เป็นกล้องถ่ายรูปของตัวเองได้ด้วย
  • Wireless - สำหรับเชื่อมต่อระบบเครือข่ายแบบไร้สาย รองรับ IEEE 802.11 B, G และถ้าดีสุดในตอนนี้ต้องเป็น IEEE 802.11 N
  • BlueTooth - สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมทั้งเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อโอนถ่ายข้อมูล
  • Modem - อุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อผ่านทางสายโทรศัพท์ สำหรับการโทร หรือการรับส่งแฟ๊กซ์
  • DVD Writer - สำหรับการบันทึกแผ่นลง CD/DVD หรือจะเป็นประเภท Blue-Ray ซึ่งมีความจุได้มากถึง 27 GB (ล้ำสมัยไปเลย)

นอกจากนี้ การเลือกซื้อ Notebook อีกอย่างที่สำคัญมากๆ คือ น้ำหนัก ถ้าต้องการให้น้ำหนักเบาก็ควรมีหน้าจอขนาดเล็ก ประมาณไม่เกิน 13 นิ้ว (น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม)

?

Keyboard (คีย์บอร์ด) Computer คืออะไร

ถ้าจะพูดถึงความหมายโดยตรง Keyboard ก็คืออุปกรณ์มาตราฐานในการสั่งงานและป้อนข้อมูลให้กับคอมพิวเตอร์ คล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีดทั่วไป สามารถแบ่งแยกปุ่มหลัก ๆ ในการทำงานได้หลายๆ อย่าง เช่น ปุ่มสำหรับพิมพ์ข้อความ ปุ่ม Function (F1,F2..) และปุ่มพิเศษอื่นๆ อีก? อ่านรายละเอียด วิธีการใช้งาน keyboard คลิกที่นี่

ทำไม่ต้องศึกษาการเลือกซื้อ Keyboard

หลายๆ คนอาจคิดว่า ทำไมต้องมาแนะนำการเลือกซื้อ Keyobard ซึ่งเราสามารถหาเลือกซื้อได้ง่ายๆ ตามห้างสรรพสินค้า หรือตามร้านไอทีทั่วไป ราคาก็อยู่ตั้งแต่ไม่ถึงหลักร้อย จนหลายพันบาท (ไม่รวม keyboard แบบเวอร์ๆ น่ะครับ)? แต่อย่างหนึ่งอยากให้คำนึงถึงการเลือกซื้อ keyboard ก็คือ การนำไปใช้งาน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำงานเป็นพนักงานพิมพ์ดีด คุณเลือกซื้อ Keyboard ที่มีระบบสัมผัสและตอบสนองได้เร็ว (ไม่ต้องกระแทกเวลาพิมพ์) ทำให้ไม่ทำให้ปวดเมื่อยเวลาพิมพ์เร็วขึ้น? หรือถ้าคุณเป็นประเภท Gamer ก็ควรหา keyboard ทีรองรับการกระแทก ทนทาน และมีคุณสมบัติแบบมัลติมีเดียมากขึ้นไปเลย เป็นต้น

แนะนำ Keyboard ประเภทต่างๆ

how to buy keyboard

  • Keyboard แบบปกติแบบเดิมๆ
  • Keyobard แบบพับได้ (แบบยาง) กันน้ำได้ดี แต่เวลาพิมพ์สัมผัสต้องทำใจสักนิด และถ้ากดไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม อาจต้องพิมพ์ใหม่
  • Keyobard แบบมัลติมีเดีย มีทั้งปุ่มควบคุมลำโพง เปิดปิดเสียง ปุ่มเรียกคำสั่งลัด เช่น เปิดโปรแกรมอีเมล browser เป็นต้น แถมบางรุ่นยังมีลำโพงด้วย
  • Keyboard สำหรับสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ Mac โดยเฉพาะ ราคาค่อนข้างแพงมาก?แต่ถ้าดู design?และวัสดุที่ทำก็คุ้มค่า แต่อย่ามาใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปน่ะครับ?

จริงๆ ยังมี keyboard ประเภทอื่นๆ อีก เช่น keyboard ที่สามารถแยกออกจากกันได้ (ตรงกลาง) เป็นต้น?และอืนๆ อีกมากมาย แต่ที่นำมาแนะนำเห็นว่าเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดา

การเชื่อมต่อ Keyboard เข้ากับคอมพิวเตอร์

  • เชื่อมต่อแบบ PS2? หัวแบบวงกลม (แบบปกติทั่วไป) เวลามีปัญหาถอดเข้า-ออก อาจจำเป็นต้องรีสตาร์ทเครื่องคอมฯ ใหม่
  • เชื่อมต่อแบบ USB (ปัจจุบันนิยมใช้กันมา) สะดวก มีปัญหาก็ถอดเข้า-ออกได้ทันที ไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่องคอมฯ ใหม่
  • เชื่อมต่อแบบ wireless หรือไร้สาย สะดวก แต่ราคาค่อนข้างแพง แถมยังจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่อีกด้วย ต้องพิจารณากันหน่อย

ต้องยอมรับอย่างหนึ่งคือ ราคาถูกย่อมได้รับสินค้าที่มีคุณภาพค่อนข้างต่ำ ดังนั้น การเลือกซื้อควรดูวัตถุประสงค์ของเราก่อน แต่อย่างหนึ่งที่อยากให้ทดสอบคือ ลองวางนิ้วและลองพิมพ์ดูว่า ตำแหน่งพอดีหรือไม่และพิมพ์แล้ว keyboard สามารถตอบสนองได้ทันทีหรือไม่..

 

Speaker คืออะไร

Sample Speaker

Speaker หมายถึง ลำโพง ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับถ่ายถอดพลังเสียงให้กับคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียงหรือโทรทัศน์ ปัจจุบันมีการพัฒนา Speaker ให้มีความสามารถในการให้พลังเสียงที่นุ่มลึก และมีความหลากหลายในแต่ละรุ่น แต่ละประเภท

  • ทิป จอ LCD ปัจจุบัน มักมีการติดตั้ง Speaker ไว้ในตัว แต่คุณภาพเสียงเรียกว่า แค่พอได้ยินเท่านั้น

ทำความรู้จัก Speaker ประเภทต่างๆ

  1. ลำโพงที่มีวงจรขยายเสียง? - เป็นลำโพงที่มีปุ่มปรับเสียงดัง เสียงทุ้ม หรือเสียง Base รวมทั้งเสียงแหลม Treble
  2. ลำโพงที่ไม่มีวงจรขยายเสียง? - จะได้ร่วมกับ Sound Card ที่มีวงจรขยายเสียง และลำโพงประเภทนี้จะไม่มีปุ่มปรับระดับเสียง แต่จะใช้โปรแกรมในการควบคุม

ส่วนประกอบหลักๆ ของลำโพง

  1. Tweeter หมายถึง ลำโพงที่ใช้สำหรับขับเสียงความถี่สูง (ความถี่เกิน 1.5 MHz)
  2. Woofer หมายถึง ลำโพงใช้สำหรับขับเสียงความถี่ต่ำ (ความถี่ไม่เกิน 1.5 MHz)
  3. Sub-Woofer หมายถึง ลำโพงใช้สำหรับขับเสียงความถี่ต่ำ (ระดับความถี่ถึง 500 Hz) ถ้ามีขนาดใหญ่จะทำให้พลังขับมากขึ้นด้วย

ลำโพงแบบต่างๆ

  1. Mono Speaker (1 Chanel) - ไม่ค่อยได้เห็นแล้ว เสียงลำโพงที่มี 1 ตัว
  2. Stereo 2 Chanel - ลำโพง 2 ตัว แยกเสียงซ้ายขวา
  3. Speaker?2.1 Chanel - ลำโพง 2 ตัว และเพิ่ม Sub-Woofer
  4. Speaker?4.1 Chanel - ลำโพง 4 ตัว และ Sub-Woofer 1 ตัว (Sub-Woofer จะนับได้ .1)
  5. Speaker?5.1 Chanel - ลำโพงมีขนาดใหญ่กว่า 4.1 และเพื่มช่องสัญญาณ ขึ้นมาอีก 2 Channel ถ้าใช้งานกับคอมพิวเตอร์จะเรียกว่า Desktop Theater 5.1
  6. Speaker?6.1 Chanel - ลำโพงมีขนาดใหญ่กว่า 5.1 และเพื่มช่องสัญญาณขึ้นอีก
  7. Speaker?7.1 Chanel - มีการเพิ่มลำโพลงจาก 5.1 อีกคือในตำแหน่งกลางซ้าย และขวา

การเลื่อกซื้อย่อมขึ้นกับการนำไปใช้งาน ถ้าต้องการระดับ Home Theater ก็อาจเริ่มต้นจากลำโพง 5.4 Chanel

 

คุณรู้จัก USB Hard disk หรือไม่

usb hard disk

USB Hard disk เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการสำรองข้อมูลภายนอก มีลักษณะการใช้งานเช่นเดียวกับ Flash Drive หรือ Thumb Drive ที่อีกหลายๆ คนคงรู้จักกันดี ส่วนประกอบของ USB Hard Disk ประกอบด้วยหลักๆ สองส่วนคือ ตัวกล่อง และ ตัว Hard disk เอง นอกจากนี้ก็ยังมีสายสำหรับการเชื่อมต่อกับเข้ากับ port USB ของคอมพิวเตอร์

การเลือกซื้อ USB Hard disk

  1. เรื่องของขนาด โดยทั่วไป hard disk ที่เรานิยมใช้กันจะมี 2 ขนาดคือ ขนาด 3.5" (ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ) กับขนาด 2.5" (สำหรับ Notebook) ดังนั้น ถ้าต้องการความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ก็อาจเรืองขนาดเล็กหรือขนาดสำหรับ Notebook คือ 2.5"
  2. ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล Hard disk ปัจจุบันจะมีความเร็วให้เลือกที่ 5400 รอบ หรือ 7200 รอบ และแน่นอน เลือกความเร็วในการบันทึกราคาย่อมแพงกว่าเล็กน้อย อีกอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกัน คือหน่วยความจุ Buffer ยิ่งมาก ยิ่งทำงานได้เร็ว และก็ยิ่งแพง? ตัวอย่างเช่น หน่วยความจำ Buffer ขนาด 16 MB เป็นต้น
  3. ความจุ เรื่องที่ต้องพิจารณาให้ดี เนื่องจากปัจจุบัน Hard disk มีการพัฒนาที่มีความจุค่อนข้างสูงมากๆ ดังนั้น ควรพิจารณาในเรื่องของการนำไปใช้ว่า จะทำอะไร เช่น นำไปทำสำเนาวีดีโอ หรือ ภาพถ่ายดิจิตอล ซึ่งปกติจะใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก? ดังนั้น อาจดูความจุขนาดตั้งแต่ 320 GB หรืออาจถึงระดับ 1024 GB (1 Terrabyte) เลยก็ได้ เป็นต้น
  4. ราคา ปกติจะขึ้นกับความจุ ถ้าความจุมากราคาก็แพงมาก ส่วนอีกอย่างหนึ่งคือขนาด โดยทั่วไป Hard disk ขนาดเล็ก จะมีราคาแพงกว่า ขนาดใหญ่ เป็นต้น
  5. ประกอบเอง หรือสำเร็จรูปดี? เนื่องจาก USB Hard disk สามารถซื้อแบบสำเร็จรูปได้ ซึ่งปัจจุบัน ก็มีหลายๆ ยี่ห้อที่ผลิตขึ้นมาและน่าใช้มาก (ดูแข็งแรงดี) แต่แน่นอนครับ USB Hard disk แบบสำเร็จรูป จะราคาแพงกว่าแบบประกอบเองพอสมควร

โดยรวมแล้ว ผมอยากแนะนำให้เลือกซื้อแบบสำเร็จรูป เพราะสามารถนำไปใช้งานได้ทันที และโดยทั่วไปก็จะมีการรับประกันด้วย และที่สำคัญไม่ต้องปวดหัว ถ้าเกิดว่าประกอบแล้ว ทำงานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง

?

Docking Station คืออะไร

Docking Stationอุปกรณ์เสริมสำหรับการเชื่อมต่อกับ Notebook หรือ Laptop เพื่อเป็นการขยาย ports การใช้งานต่างๆ ทำให้สะดวกในการทำงานมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Notebook บางรุ่นก็ไม่ได้ผลิตมาเพื่อรองรับกับ Docking Station เหมือนกัน ดังนั้น จึงควรตรวจสอบ Notebook ที่ซื้อก่อนว่า รองรับการใช้งาน Dockign Station หรือไม่ ส่วนวิธีใช้งาน Docking Station ก็เพียงวางบนแท่นและกดลงเท่านั้น

Read more...

Menu